ปัตตานี - พ่อผู้เสียชีวิตจากกรณียิงปะทะเดือดจนมีผู้เสียชีวิต 4 ศพ ที่บ้านโต๊ะชูด อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เห็นด้วยต่อการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงให้กระจ่าง เผยรับไม่ได้ลูกชายถูกกล่าวหาเป็นสมาชิก RKK และวอนฝ่ายความมั่นคงเร่งนำคนผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
วันนี้ (30 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศทั่วไปในพื้นที่ ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ประชาชนยังคงดำเนินชีวิตเป็นไปตามปกติ หลังจากเกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่ เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีประชาชนในพื้นที่เสียชีวิต 3 ราย จากจำนวน 4 ราย ที่ถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคดีสำคัญ (ศชต.) พร้อมด้วยกำลังทหารพราน 41 ใช้อาวุธสงครามยิงในระหว่างเข้าทำการปิดล้อมพื้นที่เป้าหมายดังกล่าว
ที่บ้านเลขที่ 105 ม.3 บ้านพิเทน ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง ซึ่งเป็นบ้านของ นายสุไฮมี เซ็นและ หนึ่งในเหยื่อของความรุนแรงที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ได้มีบรรดาญาติพี่น้องตลอดจนเพื่อนบ้านเรือนเคียงได้มาเยี่ยมให้กำลังใจอย่างไม่ขาดสาย โดยทุกคนต่างก็พูดเสียงเดียวกันว่า ไม่น่าเกิดขึ้นเลย เพราะทุกคนก็รักประเทศชาติเหมือนกันไม่มากไม่น้อยกว่าใคร นอกจากนั้น บรรยากาศที่บ้านหลังนี้ได้มีเพื่อนบ้านช่วยกันผัดหมี่ไว้ต้อนรับแขกที่มาเยือน และเพื่อทำบุญ ทำกินกันในครอบครัว เพราะช่วงนี้มีญาติเดินทางให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
ด้าน นายมะหะมะ เซ็นและ วัย 60 ปี เป็นพ่อของนายสุไฮมี ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้เล่าเรื่องราวของลูกชายก่อนที่จะถูกยิงเสียชีวิต ด้วยน้ำตาซึมไหลมาด้วยเสียใจว่า “ในวันนั้น เวลาประมาณ 16.00 น.ของวันที่ 25 มี.ค. ลูกชายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเพื่อไปส่งเพื่อนที่จะไปช่วยยกเสาบ้านที่กำลังก่อสร้างในบริเวณ ม.6 บ้านโต๊ะชูด ซึ่งเป็นบ้านเดียวกันกับที่เกิดเหตุ เพราะเป็นเสาไม้คำเสาขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมากจึงต้องใช้คนหลายๆ คนช่วยกันยก
จนกระทั่งในวันเดียวกัน เมื่อเวลาประมาณ 24.00 น.ได้มีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้มาปลุกที่บ้าน ซึ่งขณะนั้นทุกคนในครอบครัวได้หลับกันหมดแล้ว เมื่อตื่นจากที่นอนจึงรีบเปิดประตูบ้านจึงได้ทราบข่าวว่า ลูกชายถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิตให้นำรถไปรับศพที่โรงพยาบาล อ.ทุ่งยางแดง เมื่อได้รู้ข่าวจึงทำให้ขานั้นก้าวไปไม่ไหวหมดเรี่ยวแรงทันที เพราะตกใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น คนในบ้านจึงช่วยกันประกองขึ้นรถเพื่อไปรับศพลูกชายที่โรงพยาบาล
สิ่งที่ตกใจมากไปกว่านั้นคือ ลูกชายตัวเองโดนเจ้าหน้าที่กล่าวหาว่าเป็นสมาชิกอาร์เคเค (RKK) มีอาวุธปืนสงครามอาก้าติดตัวด้วย ยิ่งทำให้รับไม่ได้ที่ลูกชายจะเป็นอย่างที่เจ้าหน้าที่กล่าวหา จึงไม่รู้จะไปเรียกร้องความเป็นธรรมจากใคร ที่สามารถให้ความเป็นธรรมต่อลูกชาย และต่อครอบครัว ได้แต่เก็บความเจ็บปวด จนบางครั้งกลั่นน้ำตาไม่อยู่ จึงอยากฝากให้เจ้าหน้าที่ว่าก่อนหน้านี้ญาติสนิทของลูกชายได้ถูกผู้ก่อความไม่สงบยิงเสียชีวิตถึง 2 คน คนหนึ่งเป็นอาสาสมัครรักษาดินแดนประจำอำเภอทุ่งยางแดง อีกคนเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และลูกชายเองก็กำลังจะเป็นว่าที่ผู้สมัครอาสาสมัครรักษาดินแดน เพื่อแทนตำแหน่งญาติที่เสียชีวิต โดยทางปลัดอำเภอทุ่งยางแดง ได้ทาบทามมาแล้ว แล้วทำไมลูกชายถึงจะมาเป็นสมาชิก (RKK) ทางอำเภอเขาไม่มีข้อมูลบ้างหรือไง
นายสุไฮมี เซ็นและ มีพี่น้อง 7 คน เป็นลูกชายคนโต จบการศึกษาระดับ ปวส.ที่วิทยาลัยเทคนิคยะลา แล้วมาทำงานเป็นลูกจ้างตามโครงการจ้างานเร่งด่วน ประจำที่ว่าการอำเภอทุ่งยางแดง เมื่อหมดสัญญาจึงไปสมัครเป็นลูกจ้างที่สหกรณ์จังหวัดปัตตานี ทำหน้าที่ลงพื้นที่ และในระหว่างนี้ได้สมัครงานเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในตัวจังหวัดปัตตานี แล้วสัญญาจะเริ่มงานภายในวันนี้ 18 เมษายนนี้ แต่ด่วนจากไปเสียก่อน ในระหว่างที่ทำงานผู้ตายได้เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา แต่เนื่องจากไม่มีทุนทรัพย์จึงได้พักเรียนในเทอมสุดท้าย
นายมะหะมะ ยังได้กล่าวอีกว่า วันนี้ได้ทราบข่าวว่า ทางแม่ทัพภาคที่ 4 ให้ทางจังหวัดปัตตานี แต่งตั้งคณะกรรมการสอบเท็จจริง กรณียิงปะทะที่บ้านโต๊ะชูด ก็รู้สึกปลึ้มใจ ว่าเราจะได้รับความเป็นธรรมให้แก่ลูกชาย และต่อครอบครัว จึงอยากฝากให้คณะกรรมการชุดนี้ว่า เมื่อสอบข้อเท็จจริงได้แล้วให้นำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเปิดเผยต่อสาธารณชน และให้ผู้บังคับบัญชาในครั้งนั้นออกมาแสดงความรับผิดชอบ