จับแล้วรายแรกนักท่องเที่ยวจีนล้างเท้าในอ่างล้างหน้าปรับพันบาท

กระบี่ - อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา กระบี่ จับแล้วนักท่องเที่ยวจีนรายแรก ยกเท้าล้างในอ่างล้างหน้า ปรับ 1,000 บาท ฝ่าฝืนทั้งๆ ที่มีป้ายประกาศอยู่ด้านบนของอ่างล้างหน้า ไกด์ยอมรับนักท่องเที่ยวจีนเข้ามามากจากหลายเมืองไม่เข้าใจวัฒนธรรมไทย
 
จากกรณีที่มีการแชร์ภาพกันในโลกโซเชียลถึงพฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวจีนชายหญิงหลายคน ที่เข้าไปใช้ห้องน้ำที่บริเวณข้างที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ที่ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงความไม่เหมาะสม ล่าสุด นายไชยธัช บุญภูพันธ์ตันติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้นำป้ายข้อความภาษาอังกฤษ ห้ามล้างเท้า และรองเท้าในอ่างล้างหน้า พร้อมรูปภาพที่มีการแชร์ในโซเชียลไปติดตั้งไว้ที่บริเวณทางเข้าห้องน้ำ และบนผนังอ่างล้างหน้า ทั้งห้องน้ำหญิง และห้องน้ำชาย

นอกจากนี้ ทางอุทยานฯ ได้มีการเรียกมัคคุเทศก์ของกรุ๊ปทัวร์ชาวจีน มาชี้แจงทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือแจ้งให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้รับทราบถึงวัฒนธรรมของคนไทย ถ้าหากยังมีการฝ่าฝืนจะมีการเปรียบเทียบปรับรายละไม่เกิน 1,000 บาท
 
นายไชยธัช กล่าวว่า หลังจากที่เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น ทางอุทยานฯ ก็ได้ทำป้ายข้อความเตือนเป็นภาษาอังกฤษมาปิดไว้ที่ห้องน้ำไว้ก่อน ส่วนภาษาจีนขณะนี้อยู่ระหว่างรอดำเนินการ เพราะต้องหาผู้เชี่ยวชาญมาแปลข้อความภาษาจีน หลังจากทำเสร็จก็จะให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตั้งโดยเร็วที่สุด

ขณะที่มักคุเทศก์จีนรายหนึ่ง ยอมรับว่า ปัญหาดังกล่าวมักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก และมาจากหลายเมือง ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจถึงวัฒนธรรมคนไทย ซึ่งก็ได้มีการแจ้งให้ทราบไปแล้ว แต่ถ้ายังฝ่าฝืนก็ยินดีให้มีการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย เพราะนักท่องเที่ยวชาวจีนบางคนก็ไม่ค่อยใส่ใจในเรื่องประเพณีวัฒนธรรมซึ่งตนก็ทราบดี ส่วนป้ายข้อความที่ติดไว้ก็เห็นด้วย แต่มีขนาดเล็กเกินไปควรให้ทำป้ายขนาดใหญ่ กว่านี้ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้มองเห็นชัดเจน และให้เจ้าหน้าที่ควรแต่งชุดยูนิฟอร์ม

นายไชยธัช ได้เปิดเผยต่อว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ติดป้ายเตือนห้ามล้างเท้าในห้องน้ำ ได้ไม่ถึงชั่วโมง ได้มีนักท่องเที่ยวสาวจีนคนหนึ่ง ได้เข้ามาภายในห้องน้ำ พร้อมทั้งยกเท้าขึ้นมาล้างโดยไม่สนใจป้ายเตือนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพไว้ และได้ติดต่อมัคคุเทศก์ของกรุ๊ปทัวร์มารับทราบข้อกล่าวหา และให้ดูภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ดำเนินการเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 1,000 บาท ในข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.อุทยานฯ พ.ศ.2504 มาตร 116(8) พร้อมมอบใบเสร็จ เพื่อให้มัคคุเทศก์ไปเรียกค่าเสียหายจากนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวต่อไป หลังจากนี้ จะให้เจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก สำหรับการจับกุมถือเป็นรายแรก