สุราษฎร์ธานี - พ่อเมืองสุราษฎร์ธานี สั่งเร่งแก้ไขปัญหาขยะล้นเกาะสมุย หวั่นกระทบต่อการท่องเที่ยว หลังมีขยะสะสมมากกว่า 250,000 ตัน และมีเพิ่มขึ้นวัน 140 ตัน พร้อมตั้งคณะกรรมตรวจสอบบริษัทคู่สัญญาของเทศบาลนครเกาะสมุย ในการดำเนินการกำจัดขยะไม่เป็นไปตามกฎหมาย เตรียมยกเลิกสัญญา และว่าจ้างรายอื่นเข้ามาดำเนินการ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (8 มี.ค.) ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมหารือกับ นายอวยชัย อินทรนาค รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย นายจงรักษ์ ทรงรัตนพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายเชาวลิตร พลไทย นิติกรปกคลอง/เลขาผู้ว่าราชการจังหวัด นายชัชชาย บุญญาธิการ รองอัยการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยหน่ายงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาขยะล้นเกาะสมุย หลังจากเทศบาลนครเกาะสมุย ได้เซ็นสัญญากับบริษัท กิจการค้าร่วมคลีน ซิตี้ เพาเวอร์สมุย ให้ดำเนินการก่อสร้างสร้างบ่อหมักขยะ ทั้ง 4 บ่อ แต่ทางบริษัทก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญา จึงทำให้มีปริมาณขยะสะสมมานานกว่า 2 ปี และมีปริมาณมากกว่า 250,000 ตัน
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ นายเชาวลิตร พลไทย นิติกรปกคลอง/เลขาผู้ว่าราชการจังหวัด นายชัชชาย บุญญาธิการ รองอัยการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัทดังกล่าวว่าวติดขัดตรงไหนจึงไม่สามารถดำเนินการกำจัดขยะได้ตามสัญญา และหาทางแก้ไขปัญหาขยะที่กำลังล้นเกาะสมุย ถ้าปล่อยไว้ไม่รีบแก้ปัญหาอาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในอนาคตอันใกล้นี้ได้ จึงจำเป็นต้องแก้ปัญหาเร่งด่วนที่จะนำขยะที่ตกค้างอยู่บนเกาะมาดำเนินการกำจัดบนฝั่ง
ด้านนายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย ระบุว่า บ่อฝังกลบ จำนวน 4 บ่อ ของเทศบาลได้ใช้หมดไปแล้ว และมีขยะที่กองอยู่จำนวนกว่า 250,000 ตัน ที่ยังไม่สามารถดำเนินการกำจัดได้ และมีขยะเพิ่มขึ้นอีกวันละ 140 ตัน เตาเผาขยะที่มีอยู่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากเสีย และหมดสภาพ ประกอบบริษัทเอกชนคู่สัญญาก็ยังไม่สามารถดำเนินการจัดการกับขยะได้ตามสัญญา พื้นที่บ่อฝังกลบแหล่งสุดท้ายที่กำลังจะสร้างขึ้นในพื้นที่ 4 ไร่ ก็สามารถรับขยะได้ภายในระยะ 6 เดือน และสูงสุดไม่เกิน 1 ปี และยอมรับว่ามีน้ำเสียจากบ่อขยะบางแห่งไหลลงสู่เบื้องล่าง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (8 มี.ค.) ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมหารือกับ นายอวยชัย อินทรนาค รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย นายจงรักษ์ ทรงรัตนพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายเชาวลิตร พลไทย นิติกรปกคลอง/เลขาผู้ว่าราชการจังหวัด นายชัชชาย บุญญาธิการ รองอัยการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยหน่ายงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาขยะล้นเกาะสมุย หลังจากเทศบาลนครเกาะสมุย ได้เซ็นสัญญากับบริษัท กิจการค้าร่วมคลีน ซิตี้ เพาเวอร์สมุย ให้ดำเนินการก่อสร้างสร้างบ่อหมักขยะ ทั้ง 4 บ่อ แต่ทางบริษัทก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญา จึงทำให้มีปริมาณขยะสะสมมานานกว่า 2 ปี และมีปริมาณมากกว่า 250,000 ตัน
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ นายเชาวลิตร พลไทย นิติกรปกคลอง/เลขาผู้ว่าราชการจังหวัด นายชัชชาย บุญญาธิการ รองอัยการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัทดังกล่าวว่าวติดขัดตรงไหนจึงไม่สามารถดำเนินการกำจัดขยะได้ตามสัญญา และหาทางแก้ไขปัญหาขยะที่กำลังล้นเกาะสมุย ถ้าปล่อยไว้ไม่รีบแก้ปัญหาอาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในอนาคตอันใกล้นี้ได้ จึงจำเป็นต้องแก้ปัญหาเร่งด่วนที่จะนำขยะที่ตกค้างอยู่บนเกาะมาดำเนินการกำจัดบนฝั่ง
ด้านนายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย ระบุว่า บ่อฝังกลบ จำนวน 4 บ่อ ของเทศบาลได้ใช้หมดไปแล้ว และมีขยะที่กองอยู่จำนวนกว่า 250,000 ตัน ที่ยังไม่สามารถดำเนินการกำจัดได้ และมีขยะเพิ่มขึ้นอีกวันละ 140 ตัน เตาเผาขยะที่มีอยู่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากเสีย และหมดสภาพ ประกอบบริษัทเอกชนคู่สัญญาก็ยังไม่สามารถดำเนินการจัดการกับขยะได้ตามสัญญา พื้นที่บ่อฝังกลบแหล่งสุดท้ายที่กำลังจะสร้างขึ้นในพื้นที่ 4 ไร่ ก็สามารถรับขยะได้ภายในระยะ 6 เดือน และสูงสุดไม่เกิน 1 ปี และยอมรับว่ามีน้ำเสียจากบ่อขยะบางแห่งไหลลงสู่เบื้องล่าง