xs
xsm
sm
md
lg

“พันเอกปราโมทย์” ชี้โจรใต้เริ่มใช้โลกโซเชียลปลุกระดม เตือนประชาชนอย่าเชื่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ปัตตานี - โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงกรณีการเผยแพร่คลิปปลุกระดมไล่คนนอกศาสนาอิสลาม ออกจากดินแดนที่เป็นของชาวมลายูปัตตานี พบเฟซบุ๊กนามแฝงว่า “ตนกูชัยค์ รีบาท” ถูกปิดการใช้งานแล้ว เชื่อเป็นการกล่าวอ้างข้อมูลเท็จ วอนประชาชนใช้วิจารณญาณเสพข้อมูลโลกสังคมออนไลน์อย่างรอบด้าน



วันนี้ (4 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุการณ์ที่ปรากฏคลิปของบุคคลที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า ตนกูซัยค์ รีบาท โดยเนื้อหาของคลิปพยายามปลุกระดมเพื่อขับไล่คนนอกศาสนาอิสลามออกจากดินแดนที่เป็นของชาวมลายูปัตตานี เพื่อสถาปนาเป็นรัฐอิสลามอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมทั้งข่มขู่ให้คนมลายูที่เป็นเจ้าหน้าที่วางอาวุธ และลาออก รวมทั้งให้รัฐบาลไทยถอนกำลังทหารออกจากดินแดน และปล่อยตัวนักโทษความมั่งคง ภายใน 30 เมษายน 2558 ดังที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น

จากกรณีดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจ ดังนี้ 1.จากการตรวจสอบพบว่า คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่จากผู้ใช้เฟซบุ๊กนามแฝงว่า“ตนกูชัยค์ รีบาท” อดีตนักเรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง (ปกปิดข้อมูลส่วนตัว)

ขณะนี้พบว่า ถูกปิดการใช้งานแล้ว ทั้งนี้ ประเด็นเนื้อหาที่ปรากฏน่าจะเป็นการกุขึ้นมาเองเนื่องจากไม่พบพฤติกรรม และไม่มีประวัติการเคลื่อนไหวมาก่อน และเป็นการกล่าวอ้างที่เกินจริง เช่น อ้างว่าตนเองสืบเชื้อสายมาจากศาสดามูฮัมหมัด เป็นต้น จึงถือเป็นพฤติกรรมแบบสุดโต่ง ไม่มีเหตุผล ลบหลู่ และสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ศาสนาอิสลาม ทั้งนี้ เพราะสิ่งที่กล่าวอ้างไม่เคยเกิดขึ้นจริง และเป็นไปไม่ได้

2.แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 แสดงความห่วงใยต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชน โดยได้กำชับให้เร่งชี้แจงสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง พร้อมทั้งขอความร่วมมือในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้สังคมตื่นตระหนก รวมทั้งให้เร่งรัดตรวจสอบบุคคลดังกล่าวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

3.อย่างไรก็ตามปัจจุบันพบว่า กลุ่มแนวร่วมและเครือข่ายองค์กรต่างๆ ในพื้นที่ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์นำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะชี้นำทางความคิด และบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อสร้างความหวาดระแวง และทำลายน่าเชื่อถือในระบบอำนาจรัฐอย่างกว้างขวาง จึงขอให้ใช้วิจารณญาณในการบริโภคข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดี

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะยังคงมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาตามแนวทางสันติวิธีภายใต้ยุทธศาสตร์ประชาชนมีส่วนร่วม ตามแนวคิด “ทุ่งยางแดงโมเดล” ด้วยการบังคับใช้กฎหมายที่เป็นธรรม ไม่ละเมิดต่อหลักสิทธิมนุษยชน และเดินหน้าขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งการพัฒนาที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น