นราธิวาส - ผบ.ศปก.ตร. ยอมรับเหตุระเบิดหน้าร้านคาราโอเกะเมืองนราฯ อาจจะเป็นช่องว่างในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เผยช่วงกลางวันอาจไม่ได้ รปภ.อย่างเข้มงวด ชี้ไม่เกี่ยวเจรจาสันติภาพ ขณะที่ ผบ.ฉก.นย. เผยคนร้ายมีความชำนาญ ต่อวงจรระเบิดสมบูรณ์อานุภาพกว่า 100 กิโลกรัม
วันนี้ (20 ก.พ. ) เจ้าหน้าที่ชุดกองวิทยาการพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรเมืองนราธิวาส ทำการรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ โดยระเบิดเกิดขึ้นจากรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ สตราด้า ตอนครึ่ง ที่คนร้ายโจรกรรมมาจาก อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อเดือนกันยายน 2557 ที่ผ่านมา โดยนำมาสวมป้ายทะเบียนปลอม และใช้ก่อเหตุครั้งนี้ โดยแรงระเบิดส่งผลให้ร้านค้า และบ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 20 หลังคาเรือน อีกทั้งสายไฟฟ้าถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหายทำให้ไม่สามารถจ่ายไฟได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้เดินทางมาตรวจสอบ และเร่งต่อไฟฟ้าในขั้นต้นเพื่อให้สามารถจ่ายไฟได้ในคืนนี้ โดยคิดมูลค่าความเสียหายของสายไฟในครั้งนี้นับแสนบาท
ขณะที่ทางด้าน พล.ต.ท.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เดินทางมาตรวจสอบเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้นบริเวณร้านค้าคาราโอเกะ ถนน ณ นคร เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส โดยกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ว่า เป็นการฉวยโอกาสก่อเหตุของกลุ่มก่อความไม่สงบที่ต้องการแสดงศักยภาพว่ายังคงสามารถก่อเหตุได้ พร้อมยอมรับว่า เจ้าหน้าที่มีข้อบกพร่องในการดูแลความปลอดภัย หลังจากนี้จะต้องมีการจัดวางมาตรการใหม่ให้เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะในช่วงกลางวันซึ่งเจ้าหน้าที่อาจจะไม่ได้จัดมาตรการเข้มในช่วงเวลานี้ แต่อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ก็สามารถปฏิบัติงานได้อย่างดีทำให้เว้นระยะการก่อเหตุในเขตเมืองนราธิวาสมานาน ส่วนการก่อเหตุครั้งนี้เชื่อไม่เกี่ยวกับการเดินหน้าเจรจาสร้างสันติภาพ เพราะถึงแม้จะมีการก่อเหตุในพื้นที่แต่การเจรจาก็จะยังคงต้องมีการเดินหน้าต่อไป
ด้าน น.อ.นภดล ฐิตวัฒนสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินนราธิวาส กล่าวถึง เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นครั้งนี้ว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมีการวางแผนมาอย่างดีด้วยการก่อเหตุก่อนที่จะเกิดคาร์บอมบ์ด้วยการขว้างระเบิดเข้าร้านอาหารกระท้อน แต่ระเบิดด้านทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นมีการนำรถจักรยานยนต์บอมบ์มาจอดทิ้งไว้บริเวณแยกศาลเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งอยู่ในซอยเดียวกัน แต่เจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บกู้ได้ทัน และจากนั้นไม่นานก็เกิดระเบิดคาร์บอมบ์ขึ้น อีกทั้งคนร้ายมีความชำนาญในการต่อวงจรระเบิด ซึ่งระเบิดที่เกิดขึ้นมีสภาพสมบูรณ์มากทำให้อานุภาพของแรงระเบิดมีมากกว่า 100 กิโลกรัม
จากการตรวจสอบในเบื้องต้นนั้น ระเบิดคาร์บอมบ์ยังไม่ทราบว่าใช้อะไรในการจุดชนวน ส่วนระเบิดที่คนร้ายซุกในรถจักรยานยนต์ ซึ่งเจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้นั้นตรวจสอบพบคนร้ายซุกระเบิดในถังดับเพลิงขนาดเล็กมีน้ำหนัก 5-6 กิโลกรัม โดยใช้ถังแก๊สของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมขยายผลเพื่อตรวจสอบต่อไป
โดย พล.ต.ปราการ ชลยุทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุระเบิดเพื่อตรวจสอบความเสียหาย ทั้งนี้ ศูนย์เยียวยาจังหวัดนราธิวาส ได้ตั้งจุดให้บริการรับลงทะเบียนร้องทุกข์ในพื้นที่เกิดเหตุ โดยมีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายทยอยเดินทางมาลงเบียนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม แรงระเบิดในครั้งนี้ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 20 หลัง ซึ่งประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ยังคงหวาดระแวง และหวาดกลัวจากสถานการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้