ตรัง- คนร้ายซุ่มยิงด้วยปืนลูกซองดับ 2 ผัวเมีย กลางสวนยางพารา สภาพศพนอนคว่ำหน้าข้างขนำร้าง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่บริเวณลำตัว 1 นัด ในพื้นที่บ้านทุ่งส้มป่อย ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง ตำรวจสันนิษฐานสาเหตุมาจากขัดแย้งเรื่องส่วนตัว
วันนี้ (17 ก.พ ) เมื่อเวลา 14.30 น. ร.ต.ท.สุวิทย์ เพ็งลำ ร้อยเวรสอบสวน สภ.นาโยง จ.ตรัง รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตภายในสวนยางพารา หมู่ที่ 4 บ้านทุ่งส้มป่อย ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จากนั้นได้รายงานให้ พ.ต.อ.ชัยโรจน์ โพธิปฐมพงษ์ ผกก.สภ.นาโยง รับทราบ และนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานไปยังหน่วยปฐมพยาบาลองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ละมอ เพื่อร่วมชันสูตรพลิกศพ
โดยที่เกิดเหตุพบศพ นายสุนทร หัวเขา อายุ 50 ปี สภาพศพสวมเสื้อแขนยาวสีฟ้า กางเกงวอร์มสีน้ำเงิน นอนคว่ำหน้าข้างขนำร้าง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่บริเวณลำตัว 1 นัด ถัดมาพบศพ นางวิลาศ ล่ำล่อง อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นภรรยา สภาพศพสวมเสื้อแขนยาวสีฟ้า กางเกงวอร์มสีน้ำเงิน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันเข้าที่บริเวณหน้าอก 2 นัดใกล้กัน พบหมอนรองกระสุน 1 ชิ้น จึงเก็บไว้เป็นพยานหลักฐาน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 01.30 น. นายสุนทร และนางวิลาศ ได้เดินทางออกจากบ้านพักในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง เพื่อมากรีดยางในสวนของตัวเอง แต่ขณะนั้นมีคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะมาดักซุ่มภายในศาลาใกล้ที่เกิดเหตุ จึงใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่จนเสียชีวิตทั้ง 2 คน จากนั้นคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ก่อนที่จะมีผู้มาพบศพในภายหลัง
ต่อมา พ.ต.ท.ชาญ โชติรัตน์ รอง ผกก.(ป.) สภ.นาโยง และ พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง ได้เดินทางมาตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมทำการเก็บพยานหลักฐาน ทั้งนี้ พล.ต.ต.จีวัฒน์ เปิดเผยว่า สาเหตุการสังหาร 2 สามีภรรยาในครั้งนี้น่าจะมาจากปัญหาเรื่องส่วนตัว ซึ่งทางพนักงานสอบสวน สภ.นาโยง กำลังเร่งดำเนินสืบสวนสอบสวนเพื่อจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่ นางแคล้ว หัวเขา อายุ 76 ปี มารดาของ นางวิลาศ ผู้ตายกล่าวว่า ลูกเขยเป็นคนไม่ดื่มสุรา ส่วนลูกสาวเองก็ชอบเข้าวัดทำบุญ โดยทั้งคู่มีอาชีพทำสวนยาง และจะเดินไปกรีดยางที่สวนดังกล่าวเป็นประจำ ซึ่งตนจึงไม่ทราบว่าลูกสาว และลูกเขยถูกยิงด้วยสาเหตุอะไร รู้สึกตกใจมากและเสียใจที่ต้องมาเสียทั้งคู่ไปพร้อมๆ กัน จึงอยากวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว