ยางพาราราคาตกทำวันจ่ายตรุษจีนที่พังงาเงียบเหงา

พังงา - ประชาชนในจังหวัดพังงา จับจ่ายซื้อของช่วงเทศกาลตรุษจีนบางตา ทั้งที่ราคาของเซ่นไหว้ก็ไม่แพงมากเนื่องจากภาวะทางเศรษฐกิจที่ตกต่ำราคายางพารา

วันนี้ ( 17 ก.พ.) บรรยากาศการจับจ่ายซื้อของช่วงเทศกาลตรุษจีนในตลาดสด บขส.ตะกั่วป่า อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ชาวไทยเชื้อสายจีนเริ่มจับจ่ายซื้อของไหว้เจ้าวันตรุษจีน ทั้ง หมู ไก่ เป็ด ผลไม้ ขนมเทียน ขนมเข่ง กระดาษเงิน กระดาษทอง ไม่ค่อยคึกคักเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทั้งที่ราคาของก็มีราคาไม่แพง บางอย่างยังคงราคาเดิม พบว่าปีนี้เงียบเหงากว่าปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากภาวะทางเศรษฐกิจที่ตกต่ำ จากสินค้าการเกษตรกรรมด้านยางพาราที่ผ่านมามีภาวะราคายางพาราตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี ทำให้คนไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดพังงา ต้องประสบภาวะพิษเศรษฐกิจตกต่ำอย่างหนัก ส่งผลให้การเฉลิมฉลองตรุษจีนในปีนี้กร่อยลงไปอย่างสนิท ซึ่งในปีนี้แม้ว่าราคาสินค้าเซ่นไหว้จะมีราคาไม่สูงเหมือนปีที่ผ่านมา

นางกาญจนา เสมรอด แม่ค้าตลาดสด บขส.ตะกั่วป่า กล่าวว่า ในช่วงเทศการวันตรุษจีนปีนี้ประชาชนมาจับจ่ายกันจำนวนน้อยมาก ทั้งที่ราคาไก่ก็ไม่ได้ขยับตัวขึ้นแต่อย่างใด ปกติของทุกปีในช่วงวันจ่าย ประชาชนจะแน่นตลาดสด แต่ปีนี้เงียบเหงา และราคาขายก็อยู่ในราคาปกติเท่าปีที่ผ่านมา โดยราคาเนื้อหมู อยู่ที่ราคา 130 บาท เป็ดต้มแล้ว ราคาตัวละ 320 บาท ไก่ต้ม ตัวละ 200 บาท ส้มจีน ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 40 บาท ในขณะที่ส้มเขียวหวาน ราคาอยู่ที่ 70-100 บาท ส่วนหมูต้ม อยู่ที่ชิ้นละ 120 บาท กระดาษเงินกระดาษทอง ขนมเทียน ขนมเข่งก็อยู่ในราคาปกติที่ราคา 100 บาท หมูเนื้อแดง และหมูสามชั้นปกติจะขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 130 บาท ช่วงตรุษจีนก็ยังคงขายในราคาเดิม เนื้อไก่ ปกติขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 70 บาท ช่วงตรุษจีนก็ขาย กิโลกรัมละ 70 บาทเท่าเดิม

ส่วนพวกผลไม้ ราคาขยับตัวไม่มาก ปีนี้พบว่า บางรายมีการจับจ่ายซื้อของเป็นจำนวนมาก บางรายก็ซื้อน้อย ประชาชนผู้มาจับจ่ายซื้อของปีนี้ซื้อตามสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวยจากภาวะเศรษฐกิจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นยางพาราที่มีราคาตกต่ำอยู่ในขณะนี้ ส่งผลให้ประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อของไม่คึกคักเหมือนปีที่ผ่านมาก็เป็นได้