ยะลา - รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมขบวนแห่ขันหมากทางน้ำในทะเลสาบเขื่อนบางลาง เพื่อเป็นประธานในพิธีจดทะเบียนสมรสให้แก่คู่รัก จำนวน 34 คู่ ที่จูงมือร่วมโครงการ “ผูกพันสัญญารัก อุ่นไอรัก ฮาลา-บาลา” ซึ่งจัดขึ้นโดยนายอำเภอธารโต จ.ยะลา ที่หวังจะสนับสนุนให้พื้นที่มีสีสัน และรอยยิ้มเนื่องในวันแห่งความรัก
วันนี้ (14 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น.นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมขบวนแห่ขันหมากทางน้ำในทะเลสาบเขื่อนบางลาง ที่บ้านฆอแย ม.5 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา เพื่อเป็นประธานในพิธีจดทะเบียนสมรสให้แก่คู่รัก จำนวน 34 คู่ ที่จูงมือกันร่วมโครงการ “ผูกพันสัญญารัก อุ่นไอรัก ฮาลา-บาลา” ซึ่งจัดขึ้นโดยอำเภอธารโต จ.ยะลา ภายใต้แนวคิดของง นายบุญเติม รองเลื่อน นายอำเภอธารโต จ.ยะลา ที่หวังจะสนับสนุนให้พื้นที่มีสีสัน และรอยยิ้มเนื่องในวันแห่งความรัก
โดยนายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมเดินทางด้วยแพขนานยนต์ ร่วมกับขบวนขัยหมากทางน้ำที่ทางอำเภอได้จัดขึ้น โดยมีนายสามารถ วราดิศัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายบุญเติม รองเลื่อน นายอำเภอธารโต และหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น ร่วมขบวนแห่ดังกล่าว มายังเรือของคู่บ่าวสาวที่รอรับใบทะเบียนสมรส
ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลา 09.00 น.นายบุญเติม รองเลื่อน นายอำเภอธารโต ได้ถือเวลาเอาฤกษ์เอาชัย ปฏิบัติหน้าที่เป็นนายทะเบียน จดทะเบียนสมรสให้แก่คู่รัก จำนวนทั้งสิ้น 34 คู่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประชาชนในพื้นที่จูงมือกันเดินทางมาร่วมในโครงการ “ผูกพันสัญญารัก อุ่นไอรัก ฮาลา - บาลา” ปี 58 ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้จัดขึ้น โดยการใช้สถานที่บริเวณใต้สะพานข้ามเขื่อนบางลาง บ้านฆอแย ม.5 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา โดยบรรยากาศการจดทะเบียนสมรสนั้น ทางอำเภอได้จัดสถานที่จดทะเบียนสมรสภายในเรือขนาดความจุ 100 คน ที่ถูกตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงาม เพื่อรองรับบรรยากาศของวันแห่งความรัก นอกจากนี้ก็ยังมีการแสดงบนเวทีที่อยู่บนแพขนานยนต์ซึ่งจอดอยู่ใกล้กัน เพื่อสร้างความบันเทิงให้แก่เทศกาลแห่งความรัก
ทั้งนี้ แนวความคิดดังกล่าวสืบเนื่องจาก สะพานข้ามทะเลสาบเขื่อนบางลาง เป็นจุดที่มีผู้เดินทางผ่านไปยังอำเภอเบตง จ.ยะลา นิยมแวะพัก และชื่นชมบรรยากาศของธรรมชาติ พร้อมทั้งถ่ายรูปเป็นที่ระลึกบ่อยครั้ง และทะเลสาบเหนือเขื่อนบางลางเองนั้นก็มีความคล้ายคลึงกับทะเลสาบแลคโตบ้า ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งทางจังหวัดยะลา ก็ถือเป็นยุทธศาสตร์หลักในการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยงเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติในอนาคตอันใกล้ ซึ่งจะส่งผลให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้มีโอกาสมีรายได้ จากการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมธรรมชาติ ซึ่งในปัจจุบันนั้น มีนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านทั้ง มาเลเซีย สิงคโปร์ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวบ่อยครั้ง และจะมีการผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดอีกแห่งหนึ่ง