สุราษฎร์ธานี - ผู้การฯ สุราษฎร์ฯ ตั้งชุดไล่ล่าผู้ต้องหายาเสพติดแหกห้องขังโรงพักเมืองสุราษฎร์ธานี ประกาศตั้งรางวัลแก่ผู้แจ้งเบาะแส จำนวน 20,000 บาท พร้อมตั้งคณะกรรมสอบสวนเอาผิดดาบตำรวจเจ้าหน้าที่สิบเวร
จากรณีเมื่อเวลา 22.30 น.วานนี้ (5 ก.พ.) นายสุรชัย พัชนี อายุ 20 ปี และนายนภดล บุญยินทุ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาคดีครอบครองและจำหน่ายยาเสพติด ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้ฉวยโอกาสที่ ด.ต.ธีระพล แหลมยุหีม เจ้าหน้าที่สิบเวรได้ไขกุญแจห้องขังเพื่อนำสิ่งของที่ญาติของนายสุรชัย นำมาฝากไปให้ผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหาทั้งคู่ฉวยโอกาสที่สิบเวรเปิดประตูห้องขังโดยใช้เท้าถีบประตูห้องขัง และรุมชกต่อย และฉวยโอกาสที่กำลังชุลมุนได้วิ่งออกจากโรงพัก หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.วิสุทธิ ภู่พันธ์ศรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี นำกำลังติดตามจับกุมนายนภดล กลับมาได้ 1 ราย ส่วนนายสุรชัย ได้วิ่งหลบหนีไปทางศาลหลักเมือง และกระโดดขึ้นรถจักรยานยนต์ที่พรรคพวกจัดเตรียมมารับหลบหนีไปอย่างลอยนวล
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (6 ก.พ.) พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ตำรวจภูธรสุราษฎร์ธานี รุดตรวจที่เกิดเหตุภายในห้องขัง สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และสอบปากคำ นายนภดล บุญยินทุ ผู้ต้องหาที่ร่วมกันแหกห้องขัง และถูกจับได้กว่า 1 ชั่วโมง
พล.ต.ต.อภิชาติ ระบุว่า จากการสืบสวนขณะนี้ผู้ต้องหายังคงหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ พร้อมได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของ สภ.เมือง ร่วมกับชุดสืบสวนของจังหวัดกว่า 100 นาย ลงพื้นที่ตรวจค้นแหล่งเป้าหมายในทุกอำเภอ และได้ตั้งรางวัลแก่ผู้แจ้งเบาะแสผู้ต้องหาเป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท และสั่งทบทวนมาตราการควบคุมดูแลผู้ต้องหาไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อน ส่วนผู้มีส่วนร่วมค่อการหลบหนีมีอยู่ประมาณ 3 คน เป็นกลุ่มวัยรุ่น และ 1 ในนั้นเป็นแฟนสาวของนายสุรชัย และคาดว่ายังคงกบดานอยู่ในเขตอำเภอพุนพิน บ้านแฟนสาวของผู้ต้องหา
ส่วน ด.ต.ธีระพล แหลมยุหีม เจ้าหน้าที่สิบเวร ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ว่า มีข้อบกพร่อง หรือมีส่วนร่วมกระทำความผิด หรือประมาท หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องเอาผิดทั้งอาญาและวินัย
