ตรัง - วัยรุ่นเมืองตรังสุดโหด ควงปืนไล่ยิงนักเรียนโรงเรียนเอกชนชื่อดัง ขณะซ้อนท้ายรถ จยย. มากับเพื่อนเพื่อกลับบ้าน กระสุนถูกเข้ากลางหลังล้มคว่ำเสียชีวิต คาดมาจากปัญหาขัดแย้งส่วนตัว
วันนี้( 26 ม.ค.)เมื่อเวลา 16.30 น.ร.ต.ท.อัทธ์ โพชสาลี ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ว่า มีเหตุวัยรุ่นไล่ยิงนักเรียน ที่บริเวณสะพาน ถนนบายพาส สายเมืองตรัง-ห้วยยอด รอยต่อระหว่างตำบลนาพละ กับตำบลนาโยงใต้ อำเภอเมืองตรัง โดยพลเมืองดีได้นำผู้บาดเจ็บสาหัสนำส่งโรงพยาบาลตรังแล้ว จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปัญจพล ชำนาญหมอ ผกก.สภ.เมืองตรัง พ.ต.ท.ภูมิ บาลทิพย์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองตรัง พ.ต.ท.เมธี จันทร์งาม รอง ผกก.สส.สส.สภ.เมืองตรัง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลสถานตรัง
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบไทยมุงจำนวนมาก ต่างได้หยุดรถเพื่อดูเหตุการณ์ ส่วนผู้ที่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดลูกซองสั้น เข้าที่บริเวณกลางหลัง เป็นแผลฉกรรจ์ ปรากฎว่า ได้เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาลตรัง ทราบชื่อภายหลัง คือ นายกรกช ขุนดำ อายุ 18 ปี เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/3 โรงเรียนตรังวิทยา โรงเรียนเอกชนชื่อดังของจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นคนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ โดยมี นายนัทธพงษ์ สงเดช อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นเดียวกันกับผู้เสียชีวิต เป็นคนขับขี่ และอยู่บ้านเลขที่ 183 หมู่ที่ 8 ตำบลนาชุมเห็ด อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ซึ่งกำลังส่งผู้เสียชีวิตที่มีบ้านอยู่ไปไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก ในพื้นที่ตำบลนาพละ อำเภอเมืองตรัง
ทั้งนี้ นายนัทธพงษ์ เพื่อนผู้เสียชีวิต ได้ให้การกับพนักงานสอบสวนว่า ขณะที่ตนกับผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 125 สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กกค-584 ตรัง ออกจากโรงเรียนตรังวิทยา หลังเลิกเรียน มาตามถนนสายบายพาสดังกล่าว ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร จู่ๆ ก็มีวัยรุ่น 2 คน ขับขี่รถจักยานยนต์ ไม่ทราบสี และยี่ห้อ มาประกบด้านหลัง โดยจำได้ว่าทั้ง 2 คนร้ายสวมหมวกกันน็อกชนิดเต็มใบ จากนั้น คนซ้อนท้ายได้ใช้ปืนยิงใส่เพื่อนของตน จำนวน 1 นัด ทำให้เพื่อนของตนล้มลงจากเบาะรถจักรยานยนต์ แล้วคนร้ายก็ได้หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนสาเหตุนั้นไม่ทราบว่า เพื่อนของตนเคยมีปัญหากับใครหรือไม่
อย่างไรก็ตาม หลังจากรับทราบข้อมูลจากเพื่อนของผู้เสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้วิทยุสกัดรถจักยานยนต์ และคนร้ายลักษณะดังกล่าวทุกเส้นทาง แต่ก็ไม่มีวี่แววแต่อย่างใด ซึ่งจะได้นำเพื่อนผู้เสียชีวิตรวมทั้งพยานอื่นๆ ไปทำการสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
