ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้ประสานงานสมัชชาเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ส่งสัญญาณถึงเกษตรกรชาวสวนยางพารา 63 จังหวัดทั่วประเทศ เตรียมเคลื่อนไหวคัดค้านร่าง พ.ร.บ.สวนป่า พ.ศ.2535 ฉบับแก้ไข หลังพบว่าข้อเรียกร้องของชาวสวนยางที่ให้ตัดยางพาราออกจากบัญชีต้นไม้ท้าย พ.ร.บ.ยังไม่มีความชัดเจน โดยเตรียมชุมนุมพร้อมกันในวันที่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เข้าสู่การพิจารณาของ สนช.
นายสุนทร รักษ์รงค์ ผู้ประสานงานสมัชชาเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ได้เขียนในเฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รัฐสภาว่า ทางคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สวนป่า พ.ศ.2535 ฉบับแก้ไข ขอเชิญประชุมเพื่อหารือ ในวันที่ 28 ม.ค.58 เกี่ยวกับกรณีที่ร่าง พ.ร.บ.สวนป่า พ.ศ.2535 ฉบับแก้ไขมีการบรรจุต้นยางพาราไว้ในบัญชีต้นไม้ท้าย พ.ร.บ. ซึ่งก่อนหน้านี้ กลุ่มแนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยางได้เคลื่อนไหวคัดค้านในประเด็นนี้มาแล้ว
โดย นายสุนทร ระบุว่า เข้าใจว่าจบเรื่องแล้ว เพราะในที่ประชุมของคณะกรรมาธิการล่าสุดมีมติให้ประธานฯ ถอนรายการไม้ยางพาราออกจากบัญชีต้นไม้ท้าย พ.ร.บ.นี้ ครั้งที่จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาวาระ 2 ในที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ผ่านมา ทางประธาน และรองประธานคณะกรรมาธิการอ้างข้อกฎหมายว่าถอนในชั้นกรรมาธิการไม่ได้เพราะได้ลงมติไปแล้ว ทบทวนไม่ได้ และอ้างว่าหมดระยะเวลาการพิจารณาแล้ว ซึ่งในที่ประชุมกรรมาธิการเกษตรของสภานิติบัญญัติแห่งชาติก็ไม่มีใครเห็นด้วย
“มันจะอะไรกันนักกันหนาแค่เหตุผลสั้นๆ ว่า เป็นความเห็นแก่ตัวของ อ.อ.ป.หรือองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อยากขายไม้ยาง 200,000 ไร่ มูลค่า 10,000 ล้านบาท เพื่อจะได้ไปทำมาหากินกันอีก ที่ผ่านมา โกงน้ำยางกันยังไม่พอ ซึ่งจากความเห็นแก่ตัวของ อ.อ.ป.และความเห็นแก่ได้ของป่าไม้ แต่จะทำให้สวนยาง 21 ล้านไร่ เดือดร้อน และเกษตรกรชาวสวนยางอีก 6 ล้านคน จะถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้รีดไถ เหตุผลขนาดนี้คุณยังไม่หยุดอีกหรือครับ”
นายสุนทร กล่าวและว่า วันที่ 28 ม.ค.58 ตนไม่ว่างต้องไปศาลเพื่อต่อสู้คดีปิดถนนกรณีช่วยชาวสวนยางเมื่อปี 2556 ที่บ้านศรีนคร อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ และจะไม่ส่งใครไปร่วมหารือด้วย และเรื่องนี้เป็นมติของสมัชชาเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 ม.ค.58 จึงขอประกาศให้พี่น้องชาวสวนยางทั้ง 63 จังหวัด เตรียมตัวให้พร้อมหาก พ.ร.บ.สวนป่า พ.ศ.2535 ฉบับแก้ไข เข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติวันไหน ให้ไปแสดงพลังที่ศาลากลางทุกจังหวัด ส่วนตนเอง และคณะจะเดินทางไปที่รัฐสภาเพื่อให้กำลังใจสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่คัดค้าน พ.ร.บ.ฉบับนี้
“พ.ร.บ.สวนป่า พ.ศ.2535 ฉบับแก้ไขได้บรรจุไม้ยางพาราอยู่ในบัญชีต้นไม้ท้าย พ.ร.บ.จะทำให้การตัดโค่นไม้ยางพาราต้องถูกตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ซึ่งเป็นการเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่รีดไถ และแสวงหาผลประโยชน์จากเกษตรกรชาวสวนยาง ทำให้สวนยาง 21 ล้านไร่ และเกษตรกรชาวสวนยาง 1 ล้านครอบครัว เดือดร้อนจาก พ.ร.บ.ฉบับนี้ จากเดิมที่การตัดโค่น และเคลื่อนย้ายไม้ยางพารากระทำโดยเสรี ไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เพราะไม้ยางไม่ได้เป็นไม้หวงห้าม และที่ดินทำสวนยางก็เป็นพื้นที่มีเอกสารสิทธิ ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ป่า วิกฤตราคายางพาราตกต่ำกระหน่ำซัด ยังต้องเจอกับกลไกทางกฎหมายจากรัฐมาซ้ำเติม” นายสุนทร กล่าว
