ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - โตโยต้าพิธาน ออกโรงแจงเหตุลูกค้าถอยแคมรี่ 2 เดือน ส่งซ่อม 7 ครั้ง ส่งช่างเช็กรถแล้วสภาพปกติ และได้ชี้แจงให้ลูกค้าทราบการตรวจเช็กปัญหาทุกขั้นตอน ด้านลูกค้ายืนยันส่งคืนรถ พร้อมยื่นฟ้องศาลแขวง
ความคืบหน้ากรณี นายกีย์รติกาญจน์ ศรีหนองคู อายุ 31 ปี นักธุรกิจเจ้าของรีสอร์ตใน อ.เบตง จ.ยะลา ร้องเรียนเรื่องรถเก๋งโตโยต้า รุ่นแคมรี่ สีขาวมุก ป้ายแดง หมายเลขทะเบียน ว 9229 กรุงเทพมหานคร มีปัญหาต้องซ่อมถึง7 ครั้ง หลังจากที่ซื้อมาได้ประมาณ 2 เดือน วิ่งได้ 1,000 กิโลเมตร ทั้งพวงมาลัยมีเสียงดังเวลาเลี้ยว ระบบเซ็ลทรัลล็อกทำงานได้บ้างไม่ได้บ้าง และปุ่มสตาร์ทลากยาวเวลาเครื่องยนต์ร้อน และต้องการที่จะส่งรถคืน โดยได้ยื่นเรื่องฟ้องศาลแขวงแต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้
วันนี้ (21 ม.ค.) ทางบริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด สาขาลพบุรีราเมศวร์ ซึ่งเป็นดีลเลอร์ที่จำหน่ายรถให้แก่ลูกค้ารายนี้ ได้มอบหมายให้ นายนฤดล นวลงาม ผู้ช่วยผู้จัดการสายงานหลังการจำหน่าย ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับปัญหาของรถ และการตรวจเช็กสภาพตามที่ลูกค้าได้ร้องเรียน รวมทั้งสาธิตระบบการทำงานของรถยนต์รุ่นนี้ตามสภาพการใช้งานจริง
โดยยืนยันว่า จากการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญทั้งของศูนย์บริการ และบริษัทโตโยต้ามอเตอร์ ด้วยเครื่อง GTS ซึ่งเป็นเครื่องวิเคราะห์ระบบเครื่องยนต์อย่างละเอียด โดยมีเจ้าหน้าที่ของสมาคมผู้บริโภคสงขลา มาเป็นคนกลางในการตรวจสอบ พบว่า รถมีสภาพปกติ ทั้งระบบเซ็ลทรัลล็อกที่เปิดปิดได้ตามปกติ ส่วนพวงมาลัยที่มีเสียงดังมีสาเหตุมาจากยางกันฝุ่นซึ่งได้แก้ไขแล้ว ส่วนระบบพุชสตาร์ทที่ลากยาวพบว่า เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวซึ่งมีการตรวจเช็กทั้งระบบน้ำมัน และความร้อนที่น่าจะเป็นสาเหตุแต่ก็ไม่มีปัญหา และได้มีการชี้แจงในรายละเอียดทั้งหมดจนลูกค้าเข้าใจแล้ว แต่ลูกค้ายังไม่มั่นใจ และต้องการที่จะส่งรถคืน พร้อมกับยื่นเรื่องฟ้องศาลแขวงสงขลา
ตัวแทนของบริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด สาขาลพบุรีราเมศวร์ ระบุว่า ในทางคดีซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการไกล่เกลี่ยของศาลแขวงสงขลา ทางบริษัทได้เสนอให้มีการตรวจสอบรถคันนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ หรือหาผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมยานยนต์มาทำการตรวจสอบร่วมกันเพื่อให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจว่ารถมีสภาพปกติ และหากมีปัญหาเกิดขึ้นจะรับผิดชอบตามเงื่อนไขการรับประกันคุณภาพ 3 ปี หรือ 1 แสนกิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน แต่ทางบริษัทไม่สามารถรับเงื่อนไขการส่งมอบรถคืนจากลูกค้าได้ ในกระบวนการไกล่เกลี่ยครั้งแรกจึงยังไม่สามารถตกลงกันได้
ส่วนทางคดีหลังจากนี้ หากยังไม่สามารถตกลงกันได้ และลูกค้ายังต้องการที่จะส่งรถคืน ทางศาลก็จะจำหน่ายคดีออกจากการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง และให้ลูกค้ายื่นเรื่องฟ้องศาลแขวงสงขลา เพื่อให้ศาลพิจารณาตัดสินว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร
