กระบี่ - พ่อแม่ใจสลาย วันเด็ก สองพี่น้องขอเที่ยวเล่นน้ำชายหาดถูกกระแสคลื่นซัดจมน้ำดับทั้งคู่ เจ้าหน้าที่ช่วยงมศพขึ้นมาได้ 1 สูญหายอีก 1
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (10 ม.ค.) ร.ต.ท.ณัฐภัทร พุทธังกโร ร้อยเวนสอบสวน สภ.เมือง จ.กระบี่ รับแจ้งเหตุเด็กจมน้ำ เหตุเกิดที่บริเวณปากแม่น้ำคลองสน ใกล้ที่ทำการสำนักงานอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี หมู่ 5 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ เวชพานิชย์ ปลัดจังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ หน่วยกู้ภัย อบต.อ่าวนาง หน่วยกู้ภัยกระบี่พิทักษ์ประชา และมูลนิธิประชาสันติสุข ร่วมค้นหา
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณร่องน้ำห่างจากหาดนพรัตน์ธารา ประมาณ 800 เมตร พบชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวยืนมุงดูบนชายหาดอยู่จำนวนมาก หลังผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ก็นำศพขึ้นมาได้ 1 ราย ทราบชื่อคือ ด.ญ.วิมวิพา หรือน้องแอ็บ เขียวใหญ่ อายุ 14 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 ม.7 ต.เขาต่อ อ.ปลายพระยา ทันทีที่นางมะลิวัลย์ อายุ 40 ปี ผู้เป็นแม่เห็นร่างไร้วิญญาณของลูกสาวขึ้นมากจากน้ำถึงกับทรุดกายลงบนหาดทราย ร้องไห้ฟูมฟายพูดจาไม่ได้ศัพท์ ท่ามกลางไทยมุงที่ยืนดูด้วยความสลดใจ เจ้าหน้าที่จึงนำศพไปชันสูตรที่ส่งโรงพยาบาลกระบี่
นอกจากนี้ ยังมีเด็กจมน้ำอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ ด.ช.วงศ์วุฒิ เขียวใหญ่ อายุ 12 ปี เป็นน้องชายของ ด.ญ.วิมวิพา เจ้าหน้าที่พยายามเร่งค้นหาบริเวณจุดที่เกิดเหตุแต่ยังไร้วี่แวว คาดว่าถูกกระแสน้ำน้ำซัดออกไปจากจุดที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ประดาน้ำจึงขยายวงรัศมีในการค้นหาออกเพิ่มขึ้น แต่ผ่านไป 2 ชั่วโมง ก็ยังไม่พบ คาดว่าร่าง ด.ช.วงศ์วุฒิ อาจจะถูกกระแสน้ำซัดไปติดตามซอกหิน หรือรากไม้
จากการสอบสวน นายวิสูตร เขียวใหญ่ อายุ 42 ปี อาชีพขับเรือหางยาวรับส่งนักท่องเที่ยว พ่อของสองพี่น้องที่จมน้ำ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุลูกๆ ทั้งสองคนได้ขอให้พามาเที่ยวที่หาดนพรัตน์ธารา ซึ่งทีแรกตนก็ไม่อยากมา แต่เห็นว่าเป็นวันเด็กจึงได้พามากันหมดทั้งครอบครัว จากนั้นก็นั่งพักผ่อนทานอาหารที่ชายหาด ปล่อยให้ลูกๆ ไปเดินเล่นตามชายหาดกับเพื่อนๆ จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 1 ชม. มีเพื่อนของลูกวิ่งหน้าตื่นมาบอกว่า ลูกสาวและลูกชายจมน้ำแล้วจึงไปดู แต่ก็ไม่ทันการณ์ เจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหาอยู่ประมาณ 1 ชม. จึงพบศพลูกสาวในสภาพร่างไร้วิญาณ
ส่วนลูกชายอีกคนคาดว่าน่าจะไม่รอดเหมือนกัน ซึ่งตนทำใจแล้ว แต่กลั้นน้ำตาไม่อยู่ ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องควรจัดเวรยามคอยเฝ้าระวังที่จุดเกิดเหตุตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุกับเด็กคนอื่นๆ เพราะที่ผ่านมา จุดดังกล่าวมีคนจมน้ำบ่อยครั้ง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า ก่อนเกิดเหตุเด็กทั้งสองอาจจะไปลงเล่นน้ำบริเวณคลองดังกล่าว โดยไม่รู้ว่าเป็นร่องน้ำลึก และกระแสน้ำเชี่ยวเพราะเป็นเส้นทางเดินเรือ เมื่อเด็กลงไปเล่นน้ำคาดว่า ถูกกระแสน้ำซัดจมน้ำในที่สุด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เร่งดำน้ำค้นหาร่างของ ด.ช.รวงศ์วุฒิ ต่อไป โดยขยายรัศมีออกจากจุดเกิดเหตุ แต่ยังไร้วี่แวว คาดว่ากระแสน้ำซัดไปติดตามซอกหิน หรือรากไม้ในลำคลองจุดใดจุดหนึ่ง