ปัตตานี - เลขาธิการ ศอ.บต.สั่งพนักงานสอบสวนเร่งสอบคดีผู้ปกครองบุกเข้าโรงเรียนทำร้ายร่างกายครูได้รับบาดเจ็บสาหัส สลบคาพื้นโรงเรียน ท่ามกลางสายตานักเรียนจำนวนมาก เนื่องจากครูคนดังกล่าวไม่ให้เด็กเข้าห้องเรียนเพราะมาสาย เผยพร้อมให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
วันนี้ (4 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวายงานกรณีที่มีผู้ปกครองบุกเข้าไปทำร้ายร่างกายครู หรืออุซตาสโรงเรียนพัฒนาวิทยา ภายในโรงเรียน ท่ามกลางครู และนักเรียนเป็นจำนวนมาก เป็นเหตุให้ครูได้รับบาดเจ็บสาหัสสลบคาพื้นโรงเรียน พร้อมใช้อาวุธปืนออกมาข่มขู่ไม่ให้ใครเข้ามาช่วย ในระหว่างการทำร้ายครู หรืออุซตาสดังกล่าว โดยอ้างเหตุผลไม่พอใจที่ครู หรืออุซตาสได้ลงโทษลูกสาวไม่ให้เข้าห้องเรียน ทำให้ลูกสาวไม่พอใจจึงได้กลับไปฟ้องพ่อแม่จึงได้มีการขนครอบครัวมาสั่งสอนครู หรืออุซตาสตามที่เป็นข่าว
ส่งผลให้มีการโพสต์ภาพเหตุการณ์ผ่านสื่อออนไลน์ โซเชียมิเดีย ภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ และมีการโพสต์ภาพดังกล่าวต่อๆ กันเป็นจำนวนมาก พร้อมแสดงความไม่พอใจ และความรู้สึกในแง่ลบต่อภาพดังกล่าวของประชาชนทั่วไปที่ไม่สามารถรับได้ต่อการกระทำดังกล่าวต่อคุณครู หรืออุซตาสที่สังคมให้ความเคารพนับถือ จนทำให้ก่อนหน้านี้หลังเกิดเหตุ นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาฯศอ.บต. ได้สั่งการให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าสอบสวนเรื่องดังกล่าวเป็นการด่วน เนื่องจากเป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เดินทางให้กำลังใจอุซตาสเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการ ศอ.บต.เผยหลังจากรับรายงานจากผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา จากกรณีเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.57 เวลา 10.00 น.ผู้ปกครองนักเรียนรุมทำร้ายนายมะรอปี ยูโซะ ครู (อุซตาส) ในโรงเรียนพัฒนาวิทยา อ.เมือง จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บพนักงานสอบสวนได้ลงพื้นที่เพื่อเก็บพยานหลักฐาน พร้อมเชิญทั้งสองฝ่ายมาประนีประนอมยอมความกัน และเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย แต่หลังจากสอบสวนปรากฏว่า เป็นเรื่องที่สร้างผลกระทบต่อความรู้สึกของบุคลากรทางการศึกษา และมีพยานหลักฐานชัดเจน จึงได้กำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งทำสำนวนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 7 ม.ค.58 ทั้งนี้ พร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ส่วนนักเรียนทราบว่า มีแนวโน้มขอลาออกจากโรงเรียนด้วยเหตุผลโรคประจำตัวแล้ว เลขาธิการ ศอ.บต.กล่าวต่อไปว่า หลังจากนี้จะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปเยี่ยมครอบครัวของทั้งสองฝ่ายเพื่อทำความเข้าใจ และสร้างความเข้าใจอันดีต่อกัน ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก