ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้บริหารโรงเรียนในจังหวัดภูเก็ต ร่วมจัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันในการแลกเปลี่ยนพัฒนาการกีฬาของโรงเรียนในจังหวัด เน้นพัฒนากีฬาให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน
วันนี้ (29 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมโรงเรียนสตรีภูเก็ต นายสาโรจน์ อังคณาพิลาส นายกสมาคมกีฬาจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายเกียรติศักดิ์ ปิลวาสน์ อุปนายกสมาคมกีฬาจังหวัดภูเก็ต ที่ปรึกษาโรงเรียนสตรีภูเก็ต นายอุเทน จิตต์สำรวย ผู้อำนวยการโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย และผู้บริหารโรงเรียนในจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมจัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันในการแลกเปลี่ยนพัฒนาการกีฬาของโรงเรียนในจังหวัดภูเก็ต
นายสาโรจน์ อังคณาพิลาส นายกสมาคมกีฬาจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับการบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างสมาคมกีฬาจังหวัดภูเก็ต และโรงเรียนทั้ง 6 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย โรงเรียนสตรีภูเก็ต โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ ภูเก็ต โรงเรียนเมืองถลาง โรงเรียนเทศบาลบ้านสามกอง และโรงเรียนกะทู้วิทยา เป็นการร่วมมือกันในการพัฒนาการกีฬาของโรงเรียน และกีฬาของจังหวัดภูเก็ตให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่นักเรียน
ประเด็นสำคัญในการร่วมมือ คือ การพัฒนาศักยภาพของผู้ฝึกสอน และนักกีฬา สมาคมกีฬาจังหวัดภูเก็ต ให้การสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายเพื่อใช้ในการดำเนินการพัฒนาการกีฬาของโรงเรียนให้เจริญก้าวหน้าขึ้น เป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท เพื่อให้การดำเนินการจัดการพัฒนาการกีฬาเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหรือใกล้เคียงมาตรฐาน มีส่วนร่วมในการวางแผนปฏิบัติงานให้สำเร็จลุล่วงด้วยดีในเรื่องกิจกรรมการกีฬาของสมาคมกีฬาจังหวัดภูเก็ต และของสายบังคับบัญชาของโรงเรียน
นายสาโรจน์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการทำข้อตกลงร่วมกันในครั้งนี้ ทางสมาคมได้เล็งเห็นความสำคัญของนักเรียน เยาวชนในเร่องของกีฬา โดยทางสมาคมได้รับเงินอุดหนุนงบประมาณ จำนวน 50,000 บาท มอบให้ทางโรงเรียนนำไปใช้จ่ายสนับสนุนนักกีฬา สามารถนำไปใช้แก้ปัญหาเบื้องต้นในเรื่องของค่าน้ำ ค่าไฟในการฝึกซ้อม ซึ่งจะไม่สร้างปัญหาให้แก่ผู้บริหารในการหาเงินนอกงบประมาณเพื่อการพัฒนาต่อยอดต่อไป โดยภายในเดือนมีนาคมในปี 2558 จะมีการจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติขึ้นที่จังหวัดจันทบุรี ทางจังหวัดเองก็ได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนไปแข่งขันคาดว่าจะคว้าเหรียญกลับมาให้ชาวจังหวัดภูเก็ตได้ชื่นชมอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม สำหรับแผนพัฒนาการกีฬาของจังหวัดอยากให้มีการก่อตั้งโรงเรียนกีฬานานาชาติของจังหวัดขึ้น ซึ่งมองว่าไม่ควรให้ความสำคัญแต่นักกีฬาเพียงอย่างเดียว การประกอบอาชีพก็มีส่วนเกี่ยวข้อง