ตร.ทางหลวงตั้งกล้องจับความเร็วถนนสู่ภาคใต้ พบฝ่าฝืนขับเร็วเกินกำหนดเพียบ

ชุมพร - ตำรวจทางหลวงชุมพร ตั้งกล้องจับความเร็วเพียง 3 ชั่วโมง พบมีฝ่าฝืนขับ 120-150 กม.ต่อชั่วโมงกว่า 200 คัน พร้อมเตือนถนนเพชรเกษมไปฝั่งทะเลอันดามัน ระยะทาง 110 กม. มีเส้นทางคดเคี้ยวเกือบ 494 โค้ง ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน

วันนี้ (29 ธ.ค.) พ.ต.ท.เจริญพงษ์ ขันติโล สารวัตร สถานีตำรวจทางหลวง 4 กก.2 ชุมพร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพร ออกตั้งจุดตรวจจับความเร็วเพื่อป้องกันอุบัติเหตุช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งสถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 2 ชุมพร ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ จ.ชุมพร และ จ.ระนอง บนถนนเส้นหลัก 2 สาย คือ ถนนเพชรเกษมหมายเลข 4 และถนนเอเชียหมายเลข 41 สำหรับ จ.ชุมพรนั้น ถือเป็นด่านแรกของ 14 จังหวัดภาคใต้ มีความเชื่อมต่อกับทะเลอ่าวไทย และทะเลอันดามันฝั่ง จ.ระนอง ทุกเทศกาลสำคัญๆ จะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวสัญจรไปมาจำนวนมาก

ทั้งนี้ ในช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลปีใหม่ 2557 ตำรวจทางหลวงชุมพร ได้เข้มงวดเรื่องวินัยการจราจรบนถนนทางหลวงสายหลัก โดยได้นำเครื่องตรวจจับความเร็วไปตั้งตรวจจับความเร็วตามถนนที่เป็นเส้นทางตรงซึ่งเป็นจุดเสี่ยงที่ประชาชน และนักท่องเที่ยวชอบใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด และเกิดอันตรายบ่อยครั้ง

พ.ต.ท.เจริญพงษ์ สารวัตร สถานีตำรวจทางหลวง 4 กก.2 ชุมพร ได้ฝากเตือนสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปยังพื้นที่ จ.ระนอง ฝั่งทะเลอันดามันซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่ จ.ชุมพร การเดินทางต้องใช้ความระมัดระวัง อย่าขับด้วยความเร็วสูง เพราะถนนเพชรเกษมจาก จ.ชุมพร สู่ จ.ระนอง มีระทาง 110 กม. ถนนเป็นเส้นทางคดเคี้ยวจำนวนมาก มีโค้งทั้งหมด 494 โค้ง และมีโค้งอันตรายที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยมากที่สุด จำนวน 17 โค้งด้วยกัน

ขณะที่ ร.ต.อ.ณัฐวัฒน์ ดำจีน รอง สว.ส.ทล.4 กก.2 ชุมพร ร.ต.ต.สาวิทย์ รอง สว.ส.ทล.4 กก.2 ชุมพร ได้นำกำลังไปตั้งกล้องตรวจจับความเร็วบริเวณหลัก กม.ที่ 20 ถนนเอเชีย 41 ขาล่องใต้ ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเส้นทางหลักจาก จ.ชุมพร ผ่านไปยัง จ.สุราษฎร์ธานี เพียง 3 ชั่วโมง พบว่า มีผู้ฝ่าฝืนกฎหมายขับใช้ความเร็วเกิน 120-150 กม.ต่อชั่วโมง สูงถึงกว่า 200 คัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล โดยในช่วงปกติที่ผ่านมา การตรวจจับความเร็วจะพบผู้กระทำผิดขับเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดซึ่งได้อนุโลมให้ได้ไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ครั้งละ 10-20 คันเท่านั้น สำหรับรถยนต์ทุกคันที่ถูกตรวจจับความเร็วเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจะได้ตรวจสอบทะเบียนรถ และออกใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ หรือหมายเรียกให้มาชำระค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 400 บาท โดยส่งไปยังที่อยู่ของผู้ครอบครองรถตามทะเบียนที่ปรากฏ ซึ่งได้ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น