xs
xsm
sm
md
lg

ตั้งรูปเหมือน “จ่าเพียร” ณ วัดเมืองยะลาเพื่อเป็นอนุสรณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ยะลา - ผบช.ศชต.เป็นประธานบวงสรวงรูปเหมือน พล.ต.อ.สมเพียร ภูวพงษ์พิทักษ์ อดีต ผกก.สภ.บันนังสตา ก่อนจะตั้งประดิษฐานไว้ ณ วัดเมืองยะลา เพื่อเป็นอนุสรณ์คุณงามความดี

วันนี้ (28 ธ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.ที่วัดเมืองยะลา พล.ต.ท.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เดินทางมาเป็นประธานในพิธีบวงสรวงรูปเหมือน พล.ต.อ.สมเพียร ภูวพงษ์พิทักษ์ หรือ “จ่าเพียร เอกสมญา” อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา ณ วัดเมืองยะลา จ.ยะลา

โดยมี นางพิมพ์ชนา ภูวพงษ์พิทักษ์ ภรรยาของ พล.ต.อ.สมเพียร ภูวพงษ์พิทักษ์ และบุตรชาย เข้าร่วมพิธี นอกจากนี้ ยังมี นายสามารถ วราดิศัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนเจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา ข้าราชการตำรวจ ทหาร ประชาชน ที่เคารพนับถือ พ.ต.อ.สมเพียร เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วย

 
นางพิมพ์ชนา ภูวพงษ์พิทักษ์ ภรรยาของ พล.ต.อ.สมเพียร ภูวพงษ์พิทักษ์ เปิดเผยว่า ทั้งนี้ การตั้งประดิษฐานรูปหล่อเหมือนของ พล.ต.อ.สมเพียร ภูวพงษ์พิทักษ์ ไว้ที่วัดเมืองยะลา นั้น เนื่องจากเป็นสถานที่เหมาะสม เพราะท่านเป็นคนของประชาชน เพราะหากนำไปประดิษฐานที่ภายใน ศชต. หรือศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นจะทำให้ประชาชนโดยทั่วไปเข้าไปทำความเคารพสักการะได้ยาก และการตั้งประดิษฐานไว้ที่วัดเมืองยะลา อานิสงส์จากการทำบุญของประชาชนที่มากราบไหว้บูชา ก็จะได้ทำนุบำรุงวัด อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งเจ้าอาวาสวัดเมืองยะลา ก็เห็นสมควรที่จัดให้ตั้งประดิษฐานไว้ ณ ที่แห่งนี้ภายในวัดเมืองยะลา

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สมเพียร ภูวพงษ์พิทักษ์ หรือ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา นามสกุลเดิม อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา ได้เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2553 โดยประวัติของ พล.ต.อ.สมเพียร ภูวพงษ์พิทักษ์ ได้เข้ารับราชการครั้งแรกหลังจบโรงเรียนตำรวจภูธร เป็นตำรวจลูกแถวยศพลตำรวจอยู่ที่ สภ.บันนังสตา ผ่านการปะทะกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบนับร้อยครั้ง จนเป็นที่ครั่นคร้ามของกลุ่มแนวร่วม และรู้จักกันในแวดวงตำรวจ-ทหารในชื่อ “จ่าเพียร” และได้รับฉายา “จ่าเพียร กระดูกเหล็ก” เพราะใช้การเดินเท้าเป็นหลักในการลาดตระเวน

กระทั่งกรมตำรวจ (ในสมัยนั้น) อนุมัติให้เข้าอบรมหลักสูตรนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรโดยไม่ต้องสอบคัดเลือกได้เลื่อนยศเป็น “ร.ต.ต.” จนกระทั่งปี 2519 ขณะปะทะกับกลุ่มโจรก่อการร้าย ถูกระเบิดที่ขาซ้ายเกือบขาดแต่ยังรอดมาได้ ปี 2526 ถูกคนร้ายยิงในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ได้รับบาดเจ็บกระสุนฝังใน กระทั่งปี 2550 กลับมารับราชการเป็น ผกก.สภ.บันนังสตา ออกกวาดล้างจับกุมโจรใต้ทั้งจับเป็น และจับตายนับสิบคดี จนกระทั่งล่าสุด ถูกโจรใต้ใช้จักรยานยนต์บอมบ์หมายจะสังหารเมื่อวันที่ 18 ก.พ.แต่ก็ยังรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด

 
พ.ต.อ.สมเพียร ได้รับการโปรดเกล้าฯ เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี เหรียญมาลาเข็มกล้ากลางสมร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง และกระทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา ณ อุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2525 และนับเป็นตำรวจเพียงคนเดียวในขณะมียศ “จ่าสิบตำรวจ” ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนั้น นอกจากนี้ พ.ต.อ.สมเพียร ยังได้รับพระราชทาน และประกาศเกียรติคุณจากหน่วยงานต่างๆ อีกมากมาย เช่น ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชนชั้นสอง ประเภทหนึ่ง ได้รับประกาศนียบัตร “ผู้มีผลงานสู้รบดีเด่น” จากกระทรวงมหาดไทย ได้รับเข็มรักษาดินแดนสดุดี จากกระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบเกียรติบัตรผู้ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติด้วยความเสียสละ จากองค์การทหารผ่านศึก ไดัรับประกาศผู้มีผลงานดีเด่นด้านการปราบปราม จากกองบัญชาการตำรวจภูธร 9 ได้รับการคัดเลือกเป็นศิษย์เก่า โรงเรียนตำรวจภูธร 9 ดีเด่น ได้รับหนังสือสำคัญ จากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ยกย่องเชิดชูเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความมั่นคงของชาติ บูรณภาพแห่งดินแดน และรักษาความสงบสุขของบ้านเมืองด้วยความเข้มแข็งเสียสละ

ในชีวิตข้าราชการตำรวจกว่า 39 ปี ที่ทำหน้าที่รับใช้ประชาชน และปราบปรามสิ่งที่ขัดต่อหลักกฏหมายบ้านเมือง ทำให้ พล.ต.อ.สมเพียร ภูวพงษ์พิทักษ์ ฉายา “จ่าเพียร แห่งเทืกเขาบูโด” ได้ขอย้ายราชการออกจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ใน อ.กันตัง จ.ตรัง เพื่อใช้เวลาในช่วงปลายชีวิตข้าราชการอยู่ห่างจากความเสี่ยง แต่ก็คำร้องขอย้ายไม่เป็นผล จนทำให้ พล.ต.อ.สมเพียร ต้องเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยในขณะนั้นมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เป็นผู้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และสุดท้าย พล.ต.อ.สมเพียร ก็กลับมาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา อีกครั้ง จนถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบลอบสังหารถึง 2 ครั้ง ก่อนจะถูกคนร้ายลอบวางระเบิดเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2553
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น