สุราษฎร์ธานี - คลื่นสูงกว่า 3 เมตร กัดเซาะแนวกันคลื่นชุมชนหมู่บ้านชาวประมงบ้านพอด อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ที่สร้างด้วยงบประมาณกว่า 40 ล้านบาท พังเสียหาย นอกจากนั้น ยังกัดเซาะที่ดินชายทะเลของราษฎรหายไปจำนวนมาก ในขณะที่ผู้นำชุมชนร้องขอภาครัฐเร่งจัดทำเขื่อนกันคลื่น หวั่นที่ดินพื้นที่การเกษตรเสียหายหนัก
สถานการณ์คลื่นลมถล่มในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ยังคงมีความรุนแรง ล่าสุด จากสภาพเมื่อช่วงเย็นวันนี้ (25 ธ.ค.) คลื่นลมในทะเลเริ่มที่จะเบาบางลงกว่าเมื่อวาน (23 ธ.ค.) แต่ก็ยังมีความสูงกว่า 2 เมตร และพัดถล่มเข้าชายฝั่งยังต่อเนื่องจนสร้างความเสียหายให้แก่ชายหาดเป็นจำนวนมาก
ขณะที่เจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำสุราษฎร์ธานี และผู้นำชุมชน เร่งออกตรวจสอบพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะบริเวณแนวกันคลื่นชายหาดชุมชนหมู่บ้านชาวประมง บ้านพอด หมู่ที่ 1 ต.ชลคราม อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ที่ถูกคลื่นซัดถล่มอย่างต่อเนื่องมาหลายวัน ทำให้แนวกั้นคลื่นที่ก่อสร้างด้วยงบประมาณกว่า 40 ล้านบาท ระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ถูกคลื่นกัดเซาะป็นบริเวณกว้าง รวมทั้งถนนบางส่วนได้รับความเสียเป็นระยะทางยาวประมาณ 1 กิโลเมตร
นอกจากนั้น คลื่นยังกัดเซาะชายหาดที่ยังไม่ได้ก่อสร้างแนวกันคลื่นที่มีระยะทางยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ได้รับความเสียหายหนัก พื้นที่การเกษตร ต้นไม้ชายทะเล และพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้าน เช่น ต้นมะพร้าวถูกคลื่นซัดถอนรากถอนโคนหายไปในทะเลเป็นจำนวนหลาย 10 ไร่ และที่สำคัญหลักโฉนดที่ดินบางแปลงถูกคลื่นซัดหายไปอีกด้วย
นายสมโชค อินทร์แก้ว นายก อบต.ชลคราม อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ในพื้นที่มีคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ซัดเข้าถล่มบ้านเรือนประชาชน และคลื่นได้ซัดถาโถมเข้ามาอย่างหนัก ทำให้ที่ดิน ต้นไม้จำนวนมากถูกคลื่นซัดลงทะเล จึงขอให้ภาครัฐเร่งอนุมัติงบประมาณจัดสร้างแนวกันคลื่นที่ยังตกค้างอยู่ประมาณ 1 กิโลเมตร ให้แล้วเสร็จอย่างเร่งด่วน เพราะหากปล่อยไว้นานเกินไปบ้านพอดอาจจะถูกคลื่นซัดสูญหายไปทั้งหมู่บ้านก็เป็นไปได้
