ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา หนุ่มเลือดร้อนไล่ฟันตำรวจจราจรอ่าวนาง จ.กระบี่ ก่อนถูกยิงขาสิ้นฤทธิ์ เหตุเพียงแค่ไม่พอใจเจ้าหน้าที่ตำรวจห้ามไม่ให้จอดรถ พร้อมรวบตัวตรวจหาสารเสพติด
วันนี้ (23 ธ.ค.) ร.ต.ท.วีระพันธ์ คงพูล ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดก่อนแจ้งความดำเนินคดีต่อ นายธวัชชัย โพธิรักษ์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 226 ม.2 ต.เขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ในข้อหาพยามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ พกพาอาวุธในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอานุญาต และดูหมิ่นเจ้าพนักงาน หลังก่อเหตุใช้อาวุธมีไล่ฟันเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ส่วน นายธวัชชัย ถูกเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ขาซ้ายได้รับบาดเจ็บ ก่อนควบคุมตัวส่งโรงพยาบาลกระบี่ ท่ามกลางสายตาประชาชน และนักท่องเที่ยว เหตุเกิดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 22 .ธ.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ ส.ต.อ.อภิชาติ นาคสง่า ผบ.หมู่งานจราจร และเจ้าหน้าที่ตำรวจราจรอีก 1 นาย คือ ส.ต.อ.จิรเมธ เหล่าศิริกุล กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ป้อมจราจรบริเวณโค้ง รร.พระนางอินน์ หน้าหาดอ่าวนาง ม.2 ต.อ่าวนาง ได้มีรถกระบะบรรทุกสินค้า สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ฒอ 3078 กทม. ที่มีนายธวัชชัย เป็นคนขับได้มาจอดที่มีเส้นขาวแดงตรงโค้งหน้าป้อมจราจร จึงได้เข้าไปแจ้งเตือนให้เลื่อนรถออกไปจอดที่อื่น แต่นายธวัชชัย ไม่ยอม และด่าทอเจ้าหน้าที่ด้วยถ้อยคำหยาบคาย เจ้าหน้าที่เห็นท่าทางพิรุธจึงเข้าตรวจค้นรถพบมีดยาวประมาณ 4 นิ้ว 1 เล่ม จากนั้นผู้ต้องหาได้เข้าไปนั่งในรถพยายามปิดประตูเจ้าหน้าที่จึงดึงกุญแจออก
แต่นายธวัชชัย ได้หยิบมีดดาบยาวประมาณ 2 ฟุต จากด้านหลังเบาะนั่ง แล้วจ้วงแทงใส่ ส.ต.อ.อภิชาติ จนบาดเจ็บที่นิ้วนางมือขวา จากนั้นได้ลงจากรถแล้วใช้มีดไล่ฟัน ส.ต.อ.อภิชาติ อีกครั้ง แต่ส.ต.อ.อภิชาติ หลบทัน และวิ่งไปตั้งหลักบนถนนก่อนใช้อาวุธปืนประจำกายยิงขึ้นฟ้า 2 นัด แต่นายธวัชชัย ยังไม่ยอมหยุด ส.ต.อ.อภิชาติ จึงยิงที่ขาผู้ต้องหาอีก 2 นัด จนล้มลงก่อนเดินกะเผลกไปนั่งในรถ จากนั้น นายธวัชชัย ก็พยายามเดินตามไปหมายจะฟัน ส.ต.อ. อภิชาต อีก แต่คาดว่าเกิดอาการเจ็บที่ขาซ้ายจึงไปนั่งที่หลังรถเจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวท่ามกลางประชาชน และนักท่องเที่ยวที่ยืนมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก เบื้องต้น ผู้ต้องหาสารภาพว่า ไล่ฟัน ตร.เนื่องจากไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้จอดรถ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำผู้ต้องหาไปตรวจปัสสาวะที่โรงพยาบาลกระบี่ เพื่อตรวจหาสารเสพติด เนื่องจากมีท่าทางคล้ายคนเสพยา ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลการตรวจจากโรงพยาบาลกระบี่อีกครั้ง ขณะที่เพื่อนผู้ต้องหาที่นั่งมาด้วยกันในรถซึ่งไม่ได้ร่วมก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบสารเสพติด เบื้องต้นให้การรับสารภาพ
