ชาวบ้านเกาะยาวร้องผู้ว่าฯ พังงา เพิกถอนเอกสารสิทธินายทุนรุกที่ป่า

พังงา - ชาวบ้านบ้านย่าหมี อำเภอเกาะยาว จ.พังงา บุกร้องผู้ว่าฯ ให้เพิกถอนเอกสารสิทธิของนายทุนบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติกว่า 200 ไร่ ภายใน 60 วัน หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบพบว่าอยู่ในเขตป่า

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (22 ธ.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดพังงา กลุ่มชาวบ้านชุมชนบ้านย่าหมี ม.3 ต.เกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว จ.พังงา เดินทางเข้าพบ นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เพื่อขอให้เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดิน จำนวน 13 แปลง เนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ ที่มีกลุ่มนายทุนบุกรุกเข้าไปถือครองในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าช่องหลาด และป่าเกาะยาวใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของชาวบ้านในชุมชน และพื้นที่ใกล้เคียง อีกทั้งยังเป็นพื้นที่สำคัญต่อระบบนิเวศของอำเภอเกาะยาว ที่กำลังดำเนินการจัดทำโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องจากพระราชดำริ ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อำเภอเกาะยาว

นางกานดา โต๊ะไม ผู้แทนกลุ่มชาวบ้านชุมชนบ้านย่าหมี เปิดเผยว่า ชาวบ้านได้ร่วมต่อสู้กับกลุ่มนายทุนที่เข้ามาบุกรุกครอบครองป่าสงวนแห่งชาติป่าช่องหลาด และป่าเกาะยาวใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำที่มีชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกันตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ ตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน ในระหว่างการต่อสู้นั้นแกนนำบางคนก็ถูกกลุ่มนายทุนแจ้งความดำเนินคดี จนชาวบ้านได้ร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรมป่าไม้ และกรมที่ดิน ให้ทำการตรวจสอบ แก้ไขปัญหา และดำเนินคดีต่อกลุ่มนายทุน และผู้ที่เกี่ยวข้องต่อการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ

ล่าสุด ชาวบ้านได้ทราบว่าขณะนี้ กรมป่าไม้ และกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการตรวจสอบพบว่ามีพื้นที่บางส่วนของ น.ส.3 ก จำนวน 13 แปลง เนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ กลุ่มชาวบ้านจึงขอให้ทางจังหวัดพังงา ดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิดังกล่าวภายใน 60 วัน ตามมาตราที่ 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อจะได้นำผืนป่าต้นน้ำ และที่ดินของรัฐกลับมาเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน อีกทั้งยังเป็นการคืนความสุขให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ที่ร่วมกันต่อสู้กันมาอย่างมายาวนานอีกด้วย

ด้าน นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า ทางจังหวัดพังงา ได้รับหนังสือกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกรมป่าไม้ให้ดำเนินการเพิกถอน หรือแก้ไขหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก) ตามมาตราที่ 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และล่าสุด ก็ได้รับหนังสือด่วนจากสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย เรื่องให้รายงานการผลดำเนินการในเรื่องนี้ โดยจังหวัดพังงา ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสรุปผล และพร้อมที่จะนำเรื่องเข้าสู่การประชุมของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินในพื้นที่ทั้งหมดแล้ว