วิกฤตน้ำท่วมนราฯ เริ่มขยายวงกว้าง ประชาชนเร่งอพยพสู่ศูนย์พักพิงชั่วคราว

นราธิวาส - สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาสวิกฤตหนัก พื้นที่น้ำท่วมขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ด้านประชาชนเร่งอพยพไปยังศูนย์อพยพชั่วคราวแล้ว ขณะนี้ผู้ว่าฯ เผยอุทกภัยปีนี้หนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา

วันนี้ (18 ธ.ค.) สถานการณ์อุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ช่วงเช้านี้ขยายวงกว้างขึ้นในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ติดแนวลุ่มน้ำ 3 สายหลักในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ทั้งแม่น้ำสายบุรี แม่น้ำบางนรา แม่น้ำสุไหงโก-ลก มีน้ำท่วมขังจากระดับน้ำที่เอ่อล้นตลิ่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนอพยพไปยังศูนย์อพยพชั่วคราวโรงเรียนเทศบาล 4

ด้าน นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ครั้งนี้หนักกว่าทุกครั้ง เนื่องจากมีปริมาณฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค. ทำให้ขณะนี้ในพื้นที่ อ.สุคิริน อ.แว้ง อ.จะแนะ อ.สุไหงโก-ลก อ.เจาะไอร้อง อ.สุไหงปาดี และ อ.รือเสาะ มีน้ำท่วมขัง โดยล่าสุด ทางจังหวัดได้สั่งการแต่ละอำเภอเร่งออกตรวจสอบ และให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน ซึ่งบางจุดอาจจะต้องใช้มัสยิดเป็นสถานที่อพยพชั่วคราว

ขณะที่สภาพอากาศในพื้นที่ช่วงเช้านี้ท้องฟ้ายังปิด มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยโรงเรียนในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังได้ประกาศหยุดการเรียนการสอนแล้ว

ขณะที่ระดับน้ำในคลองยะกังซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักในเขตอำเภอเมืองนราธิวาสก่อนที่น้ำจะไหลลงสู่ทะเลว่า ซึ่งน้ำในคลองยะกังเอ่อล้นตลิ่งแล้ว โดยได้เข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนตามแนวลำคลอง ขณะที่ทางเทศบาลเมืองนราธิวาสได้เร่งสูบน้ำในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาสไปยังคลองยะกังเพื่อให้ไหลลงสู่ทะเล ทั้งนี้เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส

ส่วนที่บริเวณอุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว เจ้าหน้าที่ของอุทยานได้เร่งตัดต้นสนที่ล้มทับร้านค้าหลังจากในช่วงเช้ามืดมีลมพายุเกิดขึ้นในพื้นที่ทำให้ต้นสนหักโคนทับร้านค้า โดยร้านค้าที่ตั้งอยู่บริเวณดังกล่าวเสียหาย 1 หลัง แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ