สุราษฎร์ธานี - คลื่นสูงกว่า 3 เมตร ถล่มเรือประมงพื้นบ้านจมกลางทะเลที่สุราษฎร์ธานี มีผู้สูญหาย 2 คน เมื่อช่วงหัวรุ่งที่ผ่านมา ล่าสุด ยังไม่ทราบชะตากรรม เนื่องจากการค้นหายากลำบากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยคลื่นลมแรงทะเลมีคลื่นกว่า 4 เมตร
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (13 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำสุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเหตุมีเรือประมงพื้นบ้านในพื้นที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ถูกคลื่นสูงกว่า 3 เมตร พัดถล่มจมลงกลางทะเลเมื่อค่อนรุ่งของวันนี้ โดยเหตุเกิดขึ้นขณะนายโอ กับเพื่อนกำลังออกวางอวนปูที่บริเวณล่องน้ำเกาะเส็ด ห่างจากชายฝั่งหาดพุมเรียง อำเภอไชยาไปประมาณ 10 กิโลเมตร ทำให้นายจักรกฤษ ปักษี อายุ 25 ปี และนายก่อเกียรติ วิทยากร ได้หายไปกลางทะเลท่ามกลางคลื่นสูง
ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่เร่งทำการค้นหาช่วยเหลือ แต่การค้นหาผู้สูญหายทั้งคู่เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากในทะเลมีคลื่นสูง 3-4 เมตร เรือเล็กไม่สามารถออกร่วมค้นหาได้ ต้องใช้เรือขนาดใหญ่ออกค้นหาเท่านั้น ล่าสุด เมื่อเวลา 14 นาฬิกาเศษ ทั้งคู่ได้เกาะทุ่นวางอวนลอยคอว่ายน้ำเข้าฝั่งบริเวณแหลมทองบังกะโล หาดพุมเรียง โดยทั้งคู่ระบุว่า เหตุเกิดประมาณ 03.00 น. หลังเกิดเหตุได้ว่ายน้ำไปรวบรวมทุ่นวางอวนปูมารวมกัน แล้วเกาะว่ายน้ำลอยคอเข้าฝั่งเกือบ 10 ชั่วโมง ซึ่งทั้งคู่อยู่ในสภาพอิดโรยได้ และรับบาดเจ็บเล็กน้อย ญาติรีบนำส่งโรงพยาบาลอำเภอไชยา เพื่อทำการรักษาต่อไป
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (13 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำสุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเหตุมีเรือประมงพื้นบ้านในพื้นที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ถูกคลื่นสูงกว่า 3 เมตร พัดถล่มจมลงกลางทะเลเมื่อค่อนรุ่งของวันนี้ โดยเหตุเกิดขึ้นขณะนายโอ กับเพื่อนกำลังออกวางอวนปูที่บริเวณล่องน้ำเกาะเส็ด ห่างจากชายฝั่งหาดพุมเรียง อำเภอไชยาไปประมาณ 10 กิโลเมตร ทำให้นายจักรกฤษ ปักษี อายุ 25 ปี และนายก่อเกียรติ วิทยากร ได้หายไปกลางทะเลท่ามกลางคลื่นสูง
ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่เร่งทำการค้นหาช่วยเหลือ แต่การค้นหาผู้สูญหายทั้งคู่เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากในทะเลมีคลื่นสูง 3-4 เมตร เรือเล็กไม่สามารถออกร่วมค้นหาได้ ต้องใช้เรือขนาดใหญ่ออกค้นหาเท่านั้น ล่าสุด เมื่อเวลา 14 นาฬิกาเศษ ทั้งคู่ได้เกาะทุ่นวางอวนลอยคอว่ายน้ำเข้าฝั่งบริเวณแหลมทองบังกะโล หาดพุมเรียง โดยทั้งคู่ระบุว่า เหตุเกิดประมาณ 03.00 น. หลังเกิดเหตุได้ว่ายน้ำไปรวบรวมทุ่นวางอวนปูมารวมกัน แล้วเกาะว่ายน้ำลอยคอเข้าฝั่งเกือบ 10 ชั่วโมง ซึ่งทั้งคู่อยู่ในสภาพอิดโรยได้ และรับบาดเจ็บเล็กน้อย ญาติรีบนำส่งโรงพยาบาลอำเภอไชยา เพื่อทำการรักษาต่อไป