ตรัง - ชาวบ้านในตำบลย่านซื่อ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง จำนวนนับสิบคน โร่เข้าแจ้งความโดนเพื่อนบ้านหลอกตุ๋นเงินสูญไปรวมกว่า 10 ล้านบาท ด้านตำรวจระบุเป็นคดีแพ่ง ต้องไปฟ้องร้องกันเอง
วันนี้ (27 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.บ้านโคกยาง อ.กันตัง จ.ตรัง ชาวบ้านจากพื้นที่ ม.4 ต.ย่านซื่อ อ.กันตัง จ.ตรัง ประมาณ 20 คน ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านโคกยาง โดยอ้างว่า พวกตนถูก นางกันยา คงเอียด หรือแต๋ม อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 ม.4 ต.ย่านซื่อ อ.กันตัง จ.ตรัง ทำการหลอกด้วยการนำเงินไปแล้วไม่ใช้คืนนานนับปี คิดเป็นจำนวนเงินรวมแล้วกว่า 10 ล้านบาท ก่อนที่จะหลบหนีไปจนไม่สามารถติดต่อได้
นางอุไร แซ่เจียะ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 ม.4 ต.ย่านซื่อ อ.กันตัง จ.ตรัง หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนและเพื่อนบ้านได้รับความเดือดร้อน เนื่องจาก นางกันยา ได้หลอกตนและคนในหมู่บ้านว่าจะนำเงินไปปล่อยดอกเบี้ยให้ ด้วยความไว้ใจเพราะเห็นเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน และเห็นหน้าค่าตากันอยู่ตลอด ตนจึงยินยอมให้ยืมเงินไป โดย นางกันยา ได้มายืมเงินของตนไป จำนวน 100,000 บาท โดยที่ตนไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่า นางกันยา ได้ไปขอยืมเงินจากเพื่อนบ้านอีกหลายรายด้วยจนสูญเงินไปนับล้านบาท
ด้าน นางกมลวรรณ เกิดผล อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ม.4 ต.ย่านซื่อ อ.กันตัง จ.ตรัง เปิดเผยว่า ตนก็เป็นอีกคนที่ นางกันยา หลอกเอาเงินไปรวมแล้ว จำนวน 645,000 บาท โดยเริ่มแรก นางกันยา ทำทีว่ามาขอยืมเงิน จำนวน 30,000 บาท ซึ่งตนก็ยอมให้เพราะบ้านอยู่ใกล้กัน เห็นว่าเป็นเพื่อนบ้านกัน และสนิทกันมานาน เลยไม่ได้มีการทำสัญญา โดยแรกๆ นางกันยา ก็นำเงินมาใช้คืนด้วยดี ยืมกี่ครั้งก็นำเงินมาใช้คืนให้ จนทำให้ตนให้ความไว้วางใจ นางกันยา มาโดยตลอด
นางกมลวรรณ เปิดเผยอีกว่า เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นางกันยา ได้มายืมเงินตนอีก จำนวน 645,000 บาท และได้มีการทำสัญญากู้ยืมเงินกันด้วย โดยจะครบสัญญาในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ แต่หลังจากที่ได้มีการทำสัญญากู้เงินกัน นางกันยา ก็หายหน้าไป ไม่มีการนำมาใช้คืนแต่อย่างใด และไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย เมื่อตนไปถามที่บ้านแม่ของ นางกันยา ก็ไม่มีคำตอบว่าหายไปไหน และเพิ่งมาทราบจากเพื่อนบ้านหลายรายว่า นางกันยา ได้ไปยืมเงินมาด้วยเช่นกันรวมหลายล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมเงินที่เล่นแชร์อีกประมาณ 5 แสนบาท
ขณะที่ พ.ต.ท.สุรินทร์ ฤทธิศักดิ์ สารวัตร หน.สภ.บ้านโคกยาง เปิดเผยว่า ในกรณีดังกล่าวนี้มีผู้เสียหายหลายคนมาร้องเรียนว่า ได้รับความเดือดร้อนจากการกู้ยืมเงิน ซึ่งบางคนมีสัญญากู้เงิน แต่บางคนก็ไม่มีหลักฐานในส่วนนี้ จึงทำให้ยากในขั้นตอนทางกฎหมาย ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถทำได้เพียงรับแจ้งความเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐาน แต่ไม่สามารถติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ เพราะคดีดังกล่าวเป็นคดีแพ่ง ผู้เสียหายต้องไปยื่นฟ้องต่อทางศาลจังหวัดตรัง และต้องดูในส่วนของข้อเท็จจริงกันอีกครั้งหนึ่ง