ยะลา - รัฐบาลอนุมัติงบกว่า 826 ล้านบาท ในการก่อสร้างถนน 37 เส้นทาง ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เน้นกระจายงบในพื้นที่ให้ ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม และมีรายได้จากการก่อสร้างเส้นทาง
วันนี้ (27 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณ 826 ล้านบาทในโครงการก่อสร้างและปรับปรุงถนนที่ชำรุดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 37 เส้นทาง ระยะทาง 164.8 กิโลเมตร โดยมอบหมายให้หน่วยทหารช่างจากพื้นที่กองทัพภาคที่ 1-4 และกรมการทหารช่าง ดำเนินการก่อสร้าง สรุปความคืบหน้าการดำเนินการดังนี้
กองทัพภาคที่ 1 รับผิดชอบ 2 เส้นทาง 25.5 กิโลเมตร ในพื้นที่อำเภอสุคีริน และ อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส โดยเริ่มดำเนินการที่อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส กองทัพภาคที่ 2 รับผิดชอบ 12 เส้นทาง 38.2 กิโลเมตร ในพื้นที่อำเภอเมือง, อำเภอยะหริ่ง, อำเภอสายบุรี, อำเภอปะนาเระ, อำเภอไม้แก่น, อำเภอแม่ลาน, อำเภอมายอ, อำเภอยะรัง, อำเภอทุ่งยางแดง, อำเภอกะพ้อ, อำเภอโคกโพธิ์ และอำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี โดยเริ่มดำเนินการที่อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
กองทัพภาคที่ 3 รับผิดชอบ 8 เส้นทาง 32.5 กิโลเมตร ในพื้นที่อำเภอเมือง, อำเภอกาบัง, อำเภอยะหา, อำเภอรามัน, อำเภอบันนังสตา, อำเภอเบตง, อำเภอกรงปินัง และอำเภอธารโต จังหวัดยะลา โดยเริ่มดำเนินการพร้อมกัน 2 เส้นทางคือ อำเภอเมือง และอำเภอรามัน จังหวัดยะลา กองทัพภาคที่ 4 รับผิดชอบ 11 เส้นทาง 52 กิโลเมตร ในพื้นที่ อำเภอเมือง, อำเภอรือเสาะ, อำเภอยี่งอ, อำเภอตากใบ, อำเภอสุไหงโก-ลก, อำเภอจะแนะ, อำเภอศรีสาคร, อำเภอเจาะไอร้อง, อำเภอระแงะ, อำเภอบาเจาะ และอำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส โดยเริ่มดำเนินการพร้อมกัน 4 เส้นทาง คือ อำเภอบาเจาะ, อำเภอศรีสาคร, อำเภอระแงะ และอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ระบุว่า ปัจจุบันหน่วยงานทหารช่างได้เคลื่อนย้ายกำลังพล และยุทโธปกรณ์เข้าที่ตั้งในพื้นที่รับผิดชอบเรียบร้อยแล้ว และได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และจะแล้วเสร็จทั้งโครงการภายในกันยายน 2558 โดยมีแผนการปฏิบัติประกอบด้วย กรมการทหารช่าง รับผิดชอบ 4 เส้นทาง 16.6 กิโลเมตร ในพื้นที่อำเภอสะบ้าย้อย, อำเภอนาทวี, อำเภอเทพาและอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา โดยเริ่มดำเนินการที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
โครงการดังกล่าวเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ต้องการแก้ปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน โดยเป็นถนนแบบแอสฟัลติกคอนกรีดผสมยางพารา ซึ่งจากการวิจัยและทดสอบพบว่า จะทำให้ถนนมีความทนทาน และยืดอายุการใช้งานมากขึ้น รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการใช้ยางพาราภายในประเทศด้วย ทั้งนี้ ได้ใช้ปริมาณยางพาราในอัตราส่วนร้อยละ 5 ประมาณ 245-300 ตัน
“นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ให้แนวทางในการปฏิบัติ โดยให้ทุกหน่วยปฏิบัติงานด้วยความทุ่มเท เสียสละ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องประชาชน และให้เข้ารายงานตัวต่อผู้ว่าราชการจังหวัด และประสานการปฏิบัติกับนายอำเภอ/ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการอำเภออย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมภายในแนวคิด ปรับทุกข์ ผูกมิตร ร่วมคิด ร่วมทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้กำลังภาคประชาชนให้เข้ามาร่วม ในการรักษาความปลอดภัยเส้นทางและพื้นที่ให้แก่หน่วยทหารช่างในขณะปฏิบัติงาน สำหรับการใช้จ่ายงบประมาณต้องการให้งบประมาณอยู่ในหมู่บ้าน/ท้องถิ่นให้มากที่สุด เช่น การซื้อเสบียงอาหารในพื้นที่ การจ้างแรงงานจากชาวบ้าน เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่างบประมาณของรัฐลงไปถึงหมู่บ้าน และพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง” โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าว