xs
xsm
sm
md
lg

วัดคลองเรียนหาดใหญ่ป่วน! กรรมการขวางตั้ง “พระมหาพล” ขึ้นรักษาการเจ้าอาวาส แฉพฤติกรรมมั่วสีกา! (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คณะกรรมการวัดคลองเรียน อ.หาดใหญ่ คัดค้านการแต่งตั้งพระมหาพล รองเจ้าอาวาสขึ้นเป็นรักษาการเจ้าอาวาส ชี้มีพฤติกรรมน่าสงสัย โดยเฉพาะกรณีมั่วสุมกับสีกาหาผลประโยชน์ภายในวัด ด้านลูกศิษย์ออกโรงโต้หากสงสัยว่าทำสีกาท้องจนมีลูกจริงหรือไม่ท้าให้ขึ้นโรงพักแจ้งความพิสูจน์ DNA ด้านเจ้าตัวเก็บตัวเงียบในกุฏิ

   


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานที่ผ่านมา (23 พ.ย.) คณะกรรมการวัดคลองเรียน ซึ่งเป็นวัดที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดของ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้เรียกประชุมคณะกรรมการ และคณะสงฆ์ของวัด เพื่อร่วมแสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่จะมีการแต่งตั้งพระครูวิบูลย์ ปริยัติสุนทร หรือพระมหาพล ฐิตาโภ รองเจ้าอาวาสวัดคลองเรียน และรองเจ้าคณะอำเภอหาดใหญ่ ขึ้นเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดคลองเรียน เพื่อปฏิบัติหน้าที่แทนพระครูปัญญาภิมัณฑ์ ที่ชราภาพ สิริอายุ 102 ปี ในปีนี้ โดยมีพระพัทธนันท์ วิจิตโต เลขานุการเจ้าคณะตำบลหาดใหญ่ เป็นผู้แทนของเจ้าคณะตำบลหาดใหญ่ เป็นผู้บันทึกความคิดเห็นต่างๆ เพื่อนำเสนอพระผู้ใหญ่ตามลำดับชั้นต่อไป
 

 
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ พระครูวิบูลย์ ปริยัติสุนทร หรือพระมหาพล ฐิตาโภ รองเจ้าอาวาสวัดคลองเรียน และรองเจ้าคณะอำเภอหาดใหญ่ ไม่ได้เข้าร่วมประชุมแต่อย่างใด โดยยังคงจำวัดอยู่ในกุฏิส่วนตัวภายในวัดคลองเรียน
 

 
ด้าน พ.อ.ธรรมรัตน์ บุญศรีรัตน์ ประธานคณะกรรมการวัดคลองเรียน กล่าวว่า เห็นด้วยต่อการแต่งตั้งตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสปฏิบัติหน้าที่แทนพระครูปัญญาภิมัณฑ์ เจ้าอาวาสซึ่งชราภาพ แต่ขอให้มีการพิจาราณาความเหมาะสมของผู้ที่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่นี้อย่างถี่ถ้วน เพื่อรักษาความศรัทธาที่พุทธศาสนิกชนมีต่อวัดคลองเรียนให้ยั่งยืนสืบไป

“ที่กล่าวเช่นนี้ก็เพราะมีหลักฐานว่า พระครูวิบูลย์ ปริยัติสุนทร หรือพระมหาพล ฐิตาโภ รองเจ้าอาวาสวัดคลองเรียน และรองเจ้าคณะอำเภอหาดใหญ่ เคยถูกตั้งอธิกรณ์สอบสวนทางวินัยร้ายแรงเมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา และการสอบสวนในเรื่องดังกล่าวยังไม่เป็นที่กระจ่างแจ้งว่าทางเจ้าคณะจังหวัดสงขลา จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ในขณะที่พระครูปัญญาภิมัณฑ์ เจ้าอาวาสวัดคลองเรียน เคยมีคำสั่งบันทึกเป็นถ้อยความในแผนซีดีชัดเจนว่า ให้ถอดถอนพระครูวิบูลย์ ปริยัติสุนทร ออกจากตำแหน่งรองเจ้าอาวาสวัดคลองเรียน แต่การถอดถอนยังไม่มีความคืบหน้า เมื่อจะแต่งตั้งให้พระครูวิบูลย์ ปริยัติสุนทร หรือพระมหาพล ในฐานะรองเจ้าอาวาสปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาส จึงมองว่าไม่เหมาะสม” ประธานคณะกรรมการวัดคลองเรียน กล่าว
 

 
ด้าน น.ส.เกตุกนก แก้วกระจ่าง ผู้เข้าร่วมประชุมกล่าวว่า ต่อกรณีที่มีข้อสงสัยเรื่องพฤติกรรมไม่เหมาะสมของพระครูวิบูลย์ ปริยัติสุนทร หรือพระมหาพล นั้นควรมีการตรวจสอบความจริงให้กระจ่างแจ้งก่อนที่จะนำมากล่าวหา และขัดขวางไม่ให้พระมหาพล ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดคลองเรียน โดยมองว่า หากเรื่องการร้องเรียนดังกล่าวยังไม่สิ้นสุด หรือยังไม่มีคำสั่งใดๆ ลงมาจากเจ้าคณะจังหวัดสงขลา ก็ถือว่าพระมหาพล ยังเป็นผู้บริสุทธิ์
 

 
เช่นเดียวกับผู้ร่วมประชุมอีกรายซึ่งเป็นสตรีที่ไม่เปิดเผยชื่อ ระบุว่า กรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า พระมหาพล มีพฤติกรรมข้องเกี่ยวกับสีกาจนถึงขั้นมีลูกด้วยกันนั้น เรื่องนี้สามารถตรวจสอบได้หากใครคิดว่าเป็นเรื่องจริงก็ควรมีการแจ้งความดำเนินคดี และตรวจสอบ DNA ว่าเด็กที่ถูกกล่าวถึงเป็นลูกของพระมหาพลจริงหรือไม่

“การกล่าวหากันลอยๆ แบบนี้อาจเข้าข่ายการหมิ่นประมาท ซึ่งผู้เสียหายสามารถแจ้งความเอาผิดได้ หากใครมั่นใจว่าเรื่องนี้มีมูลความจริงก็ท้าให้แจ้งความต่อตำรวจเลยดีกว่า”

 
ด้าน จ.ส.อ.นุกูล มุณีสิทธิ์ กรรมการวัดคลองเรียน กล่าวว่า การแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสวัดคลองเรียนนั้นถือเป็นความสำคัญต่อวัดแห่งนี้มาก ส่วนตัวนั้นตนอยากจะบอกว่าที่ผ่านมา รู้เรื่องราวความเคลื่อนไหวในวัดแห่งนี้มาโดยตลอด โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับพระมหาพล เพราระเป็นผู้นิมนต์พระมหาพล ให้มาจำวัดที่วัดคลองเรียนด้วยตนเอง

“ก่อนหน้านี้ เคยตักเตือนพระมหาพล เนื่องจากพระมหาพล ได้ดัดแปลงซุ้มอำนวยการด้านหน้าวัดเป็นร้านค้าหลังจากเสร็จพิธีฝังลูกนิมิต โดยพบว่า นอกจากดัดแปลงเป็นร้านค้าขายเครื่องดื่มซึ่งมีการขายนำเครื่องดื่มมึนเมามาวางขายด้วยแล้ว ยังมีการสร้างห้องน้ำ และห้องนอนภายในร้านดังกล่าว และมอบหมายให้ผู้หญิงคนหนึ่งดูแลร้านค้าดังกล่าวโดยที่ทางวัดไม่สามารถตรวจสอบบัญชีต่างๆ ได้ จากนั้นไม่นานผู้หญิงคนดังกล่าวได้นำลูกมาอาศัยอยู่ด้วย โดยมีพระมหาพล เป็นผู้อุปการะดูแลจนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา ผมเคยไปตักเตือนเรื่องนี้หลายครั้งแล้วว่ามันไม่เหมาะสม ส่วนเขาจะมีอะไรกันหรือไม่เรื่องนี้ผมไม่ทราบ” จ.ส.อ.นุกูล กล่าว
 

 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ จ.ส.อ.นุกูล แสดงความคิดเห็นปรากฏว่าชาวบ้านที่เป็นลูกศิษย์ของพระมหาพล ได้ส่งเสียงโห่ร้องแสดงความไม่พอใจอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับตะโกนว่าเรื่องจะยังไม่จบ ทำให้พระพัทธนันท์ วิจิตโต ในฐานะเลขานุการที่ประชุม ต้องกล่าวปิดประชุมเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งลุกลามบานปลาย และจะนัดประชุมรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ในโอกาสต่อไป

หลังปิดการประชุม กลุ่มลูกศิษย์ของพระครูวิบูลย์ ปริยัติสุนทร หรือพระมหาพล ได้ไปรวมตัวกันที่กุฏิของพระมหาพล และมีการหารือกันโดยบรรดาลูกศิษย์ได้เสนอให้มีการแจ้งความเอาผิดฐานหมิ่นประมาท ในขณะที่พระมหาพล ไม่ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นใดๆ ในเรื่องนี้
 
พระครูวิบูลย์ ปริยัติสุนทร หรือพระมหาพล ฐิตาโภ รองเจ้าอาวาสวัดคลองเรียน
 
สำหรับวัดคลองเรียน ตั้งอยู่เลขที่ 1 บ้านคลองเรียน ถนนศรีภูวนารถ หมู่ที่ 4 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สร้างขึ้นราวปี พ.ศ.2210 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อประมาณปี พ.ศ.2446 ถือเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของ อ.หาดใหญ่
 

 
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2554 วัดแห่งนี้เคยมีปัญหาพิพาทกับผู้บริจาคที่ดินให้แก่วัด หลังจากทางวัดนำที่ดินดังกล่าวก่อสร้างเมรุเผาศพ ซึ่งผู้บริจาคที่ดินมองว่าเป็นการนำที่ดินไปใช้โดยผิดวัตถุประสงค์ตามที่ตกลงกันไว้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้สามารถตกลงกันได้ในภายหลัง กระทั่งเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีกครั้ง และกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวบ้านอยู่ในขณะนี้
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น