ปัตตานี - เผยเหตุโจรใต้ปะทะเดือดเจ้าหน้าที่ขณะปิดล้อมบ้านต้องสงสัยที่ปัตตานี โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนาน 20 นาที จนมีผู้ต้องสงสัย 5 คน เดินออกมามอบตัว แต่ 2 ใน 5 ผู้ต้องสงสัยเป็นเยาวชนจึงทำการปล่อยตัวไป ด้านอีก 2 ผู้ต้องหาที่ถูกวิสามัญพบประวัติก่อคดีอื้อ เคยผ่านการฝึกอาร์เคเคจากต่างประเทศ
วันนี้ (14 พ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. จากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ชุดสวนสวนคดีสำคัญ ศชต.ร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.หนองจิก พร้อมกับกำลังทหารพราน 43 และเจ้าหน้าที่ปกครอง สนธิกำลังทำการปิดล้อมพื้นที่เป้าหมาย บริเวณ ม.3 บ้านโคกโหนด ต.คอลอตันหยง อ.หนองจิก ภายหลังรับแจ้งเบาะแสจากประชาชนในพื้นที่ว่า มีบุคคลต้องสงสัยเข้ามาหลบซ่อนตัวในพื้นที่ดังกล่าว จึงจัดกำลังเพื่อเข้าไปตรวจค้นในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อตรวจสออบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับคดีความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่
ในระหว่างที่วางกำลังเข้าไปในพื้นที่แล้วนำผู้นำศาสนา (อิหม่าม) เข้าพร้อมกับเจ้าหน้าที่เพื่อเรียกบุคคลที่อาศัยอยู่ภายในบ้านมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ได้มีบุคคลดังกล่าวออกมาจากบ้าน จำนวน 5 คน โดยไม่พกอาวุธแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัวไว้ แล้วซักถามจากบุคคลทั้ง 5 ว่ายังมีคนอื่นอยู่ภายในบ้านอีกหรือไม่ และได้รับคำยืนยันว่ายังมีอีก 2 คน
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงขอความร่วมมือจากผู้นำศาสนา (อิหม่าม) ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ เข้ามาเกลี้ยกล่อมเจรจาให้บุคคลที่อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวยอมมอบตัว เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย ในระหว่างนั้นเองคนร้ายได้เปิดฉากยิงข่มเจ้าหน้าที่เพื่อหวังเปิดทางหนีไปทางหลังบ้าน แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้มีการวางกำลังล้อมรอบบ้านไว้ก่อนแล้ว
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้แก๊สน้ำตายิงเข้าไปในบ้านเพื่อกดดันให้คนร้ายมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่โดยดี แต่คนร้ายก็ยังไม่ยอมมอบตัว แล้วยังใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงใส่เจ้าหน้าที่เป็นระยะๆ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้รถยนต์หุ้มเกราะถอยเข้าไปถึงภายในบ้าน เพื่อหวังจะประชิดตัวแต่ไม่สำเร็จ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้จัดชุดจู่โจมเข้าไปประชิดตัวคนร้าย จึงเกิดการยิงปะทะกันนาน 10 นาที หลังเสียงปืนสงบจึงพบว่ามีคนเสียชีวิต 2 คน
หลังเกิดเหตุ ร.ต.ท.ณรัฐสิจฒ์ เทวฤทธิ์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานปัตตานี ได้นำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายที่เสียชีวิต คือ 1.นายรุสลี แบรอสะแม อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 25 ม.3 บ.พรุ ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา เป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับคดีความมั่นคง 10 กว่าคดี 2.นายอับดุลเราะห์มาน เจ๊ะเต๊ะ บ้านเลขที่13/2 ม.3 ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา
พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้น ขนาด.380 มม. และอาวุธปืนพกสั้นขนาด 357 มม. เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบว่าเคยใช้ก่อเหตุในพื้นที่ และคดีไหนบ้าง ส่วนผู้ต้องสงสัย 5 คน ที่ยอมมอบตัวนั้น ซึ่งประกอบด้วย 1.นายดูเลาะ กีแย 2.นายนัสรุดิน สะมะแอ 3.นายยะห์ยา บือราเฮง 4.นายอับดุลรอแม บือราเฮง 5.นายรอโซ บือราเฮง ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ ต.คอลอตันหยง หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผล ล่าสุด ได้มีการปล่อยตัว 2 คน เนื่องจากยังเป็นเด็กเยาวชนน่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนร้าย
สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน มีประวัติก่อเหตุลอบยิงประชาชน และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ยะลา และปัตตานี มีทั้งเหตุฆ่าผู้อื่น และร่วมกันสะสมกำลังพล หรืออาวุธสมคบกันเพื่อก่อการร้าย และทั้ง 2 คน อยู่ในระดับปฏิบัติการระดับแนวหน้า ผ่านการฝึกอาร์เคเคจากต่างประเทศ มีทั้งก่อเหตุยิง และลอบวางระเบิด อดีตเคยรับผิดชอบก่อเหตุในพื้นที่ จ.ปัตตานี แต่ปัจจุบันถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่จึงเปลี่ยนการก่อเหตุในพื้นที่ จ.ยะลา เป็นชุดเดียวกันกับ ลุกมาน ปูลาประเปะ ที่ไปรับผิดชอบในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา และมะนาเซร์ จะปะกียา รับผิดชอบในอำเภอยะหา จ.ยะลาอย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงตรึงกำลังปิดล้อมตรวจค้นในรัศมี 1 กิโลเมตร ที่อาจจะมีแนวร่วมซุกซ่อนอยู่ในบริเวณดังกล่าว รวมทั้งตรวจสอบในป่าละเมาะในหมู่บ้านดังกล่าวเพื่อค้นหาแหล่งซุกซ่อนอาวุธ
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญาวงศ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้สั่งการให้ตำรวจทุก สภ.ให้ตั้งจุดตตรวจค้นบนถนนสายหลัก และสายรอง รวมทั้งพื้นที่เข้าเมือง และประสานกำลังทหาร และฝ่ายปกครองในการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ซึ่งคนร้ายอาจจะมีการตอบโต้เจ้าหน้าที่หลังแกนนำถูกวิสามัญเสียชีวิต