ระนอง - คนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืน.38 ยิงพนักงานขายสินค้าในห้างแห่งหนึ่งที่ระนอง ขณะขับรถจักรยานยนต์ไปทำงานดับคาถนน คาดปัญหาชู้สาวน่าจะเป็นปมสังหารโหดครั้งนี้
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (10 พ.ย.) ร.ต.ท.บุญนำ ศรีนะรัตน์ ร้อยเวร พงส.สภ.เมืองระนอง รับแจ้งเหตุมีผู้หญิงถูกยิงด้วยอาวุธปืน บริเวณสะพานข้างโรงเรียนมิตรภาพ ถ.รัตนโกสินทร์ 200 ปี ม.6 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเร่งรุดเข้าตรวจสอบเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อนุสรณ์ แช่มชื่น พ.ต.อ.กฤษศักดิ์ สงมูลนาค รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ถาวร อัมพันธ์ สว.กก.สส.ภ.จว.ระนอง พ.ต.ต.ยุทธนา ทองปาน สว.สส.สภ.เมืองระนอง เข้าไปสืบสวน พร้อมหน่วยพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บรายละเอียดในที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า สปาร์ค สีขาวแดง หมายเลขทะเบียน กฉล ระนอง 550 ล้มคว่ำอยู่บริเวณหัวสะพาน โดยมีกระเป๋าสะพายสีน้ำตาล รองเท้ารัดส้นสีดำ ผ้าเช็ดหน้าสีแดงตกอยู่ใกล้กองเลือด และหัวกระสุนตะกั่วขนาด.38 อยู่บนทางเท้าราวสะพาน มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ น.ส.เพ็ญประภา บุญพา อายุ 38 ปี เป็นพนักงานจำหน่ายสินค้าแป้งคัสสัน และสบู่อิมพิเรียล ประจำจังหวัดระนอง ที่ห้างเคซี สาขาสะพานปลา
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า น.ส.เพ็ญประภา บุญพา พนักงานพีซี ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวออกจากบ้านเช่าเลขที่ 12/33 ม.1 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง เพื่อเดินทางไปทำงานที่ห้างเคซี สาขาสะพานปลา เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นผู้ชาย ใส่เสื้อยืดแขนยาวสีแดง นุ่งกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 125 สีแดง ใช้ผ้าเทปปกปิดหมายเลขทะเบียนรถ ขับตามประกบด้านหลังก่อนจะใช้อาวุธปืน .38 ยิงเข้าใส่หน้าอกซ้าย บริเวณราวนม 1 นัด ทำให้ น.ส.เพ็ญประภา ซึ่งสวมหมวกนิรภัยอยู่ล้มคว่ำบริเวณราวสะพาน ก่อนที่คนร้ายจะจอดรถจักรยานยนต์ตามลงมายิงซ้ำใส่ที่ใบหน้ากระสุนเข้าที่บริเวณโหนกแก้มซ้ายอีก 1 นัด หัวกระสุนทะลุตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ท่ามกลางพยาน และคนที่ขับรถบนถนน ก่อนจะขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากเหตุหึงหวง และชู้สาว เนื่องจากผู้ตายเป็นคนโสด มีรูปร่างหน้าตาดี มีผู้ชายมาติดพันหลายคน จึงเป็นชนวนในการก่อเหตุอุกฉกรรจ์ครั้งนี้ ซึ่งชุดสืบสวน บก.ภ.จว.ระนอง และชุดสืบสวน สภ.เมืองระนอง กำลังติดตามพยานที่เห็นเหตุการณ์ และผู้ที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดผู้ตายมาสอบสวนปากคำเพื่อหาตัวคนร้ายผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
