นครศรีธรรมราช - ผวจ.นครศรีธรรมราช ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ และช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำป่าจากเทือกเขาหลวงไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ขณะฝนเริ่มทิ้งช่วง ด้านเจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง พบขยะ และผักตบชวาเป็นอุปสรรคในการระบายน้ำ
วันนี้ (10 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำป่าจากเทือกเขาหลวง อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เมื่อ 2 วันก่อนที่ไหลเข้าสู่ตัวเมืองยังคงเป็นปัญหาท่วมในชุมชนลุ่มต่ำในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะชุมชนท่าม้า ชุมชนนอกโคก และอีกหลายชุมชนที่อยู่ริมลำคลองระบายน้ำสายหลักทั้ง 5 สาย ที่ไหลผ่านตัวเมือง ขณะที่สภาพฝนนั้นได้ทิ้งช่วงไปแล้วมากกว่า 24 ชั่วโมง ทำให้ไม่เป็นปัญหาต่อปริมาณน้ำ ด้านเจ้าหน้าที่ยังคงเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาขยะ และผักตบชวาที่ขวางทางน้ำยังเป็นอุปสรรคในการระบายน้ำ
อย่างไรก็ตาม พื้นที่ที่ยังคงเฝ้าระวังนั้นเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการดินถล่มในหลายจุด โดยเฉพาะ อ.ร่อนพิบูลย์ ลานสกา พรหมคีรี และนบพิตำ เนื่องจากปริมาณฝนเมื่อ 2 วันก่อนพื้นที่ป่าเขาในแถบนี้มีปริมาณฝนสูงกว่า 100 มิลลิเมตร และบางจุดเกิน 200 มิลลิเมตร ทำให้ดินภูเขาอุ้มน้ำเต็มที่ และขาดเสถียรภาพการยึดเกาะ หากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดเหตุการณ์ดินถล่มขึ้นได้
ด้านนายเจษฎา วัฒนานุรักษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครศรีธรรมราช ได้สรุปสถานการณ์อุทกภัย และน้ำป่าไหลหลาก จากหย่อมความกดอากาศต่ำซึ่งทำให้ฝนตกหนักในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่วันที่ 7-10 พ.ย.โดยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ คือ ฉวาง ช้างกลาง พิปูน ลานสกา และพระพรหม รวม 25 ตำบล 94 หมู่บ้าน 4,494 ครัวเรือน ประชาชน 12,095 คน ถนนเสียหาย 6 สาย ท่อระบายน้ำ 1 แห่ง พื้นที่การเกษตร (พืชสวน พืชไร่) 2,000 ไร่ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ส่วนความเสียหายอื่นอยู่ระหว่างการสำรวจ แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำใกล้ทางน้ำของ อ.พระพรหม เชื่อมต่อกับ อ.เมือง คาดว่าถ้าไม่มีฝนตกเพิ่มเติมจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1-2 วันนี้ ซึ่งในรอบ 24 ชั่วโมง ที่ผ่านมา ปริมาณน้ำฝนสูงสุดที่ อ.ร่อนพิบูลย์ วัดได้ 60.20 มิลลิเมตร ส่วนอำเภออื่นๆ เฉลี่ย 10.80 มิลลิเมตร
ด้านการให้ความช่วยเหลือ นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับสำนักชลประทานที่ 15 โครงการชลประทานจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด นายอำเภอทุกอำเภอ องค์การบริหารส่วนจังหวัด และส่วนที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ และให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว โดยระดมอุปกรณ์ และเครื่องมือในการให้ความช่วยเหลือเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงแล้ว
