ชุมพร - คนร้ายโหดจ่อยิงหนุ่มรับจ้างทำสวนทุเรียนที่ท่าแซะ จ.ชุมพร 4 นัด เข้าที่กลางหลัง 3 นัด และหน้าผากอีก 1 นัด ดับคาหน้าบ้าน ตำรวจคาดปมสังหารน่าจะเกิดจากความขัดแย้งกับเพื่อนบ้านที่ผู้ตายชอบดาทอเมื่อเมาสุรา
เมื่อเวลา 00.15 น.วันนี้ (29 ต.ค.) ร.ต.อ.นพดล ภัคดีสว่าง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุคนถูกยิงตายที่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 4 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาศกร ณ พิกุล ผกก.สภ.ท่าแซะ พ.ต.ท.อารมณ์ น้ำใจสุข สว.สส. กำลังตำรวจชุดสายสืบ สายตรวจ ตำรวจวิทยาการ หน่วยกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพร
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวติดถนนคอนกรีต ที่พื้นปูนหน้าบ้านพบศพทราบชื่อ นายอำพล วิมลศรี อายุ 34 ปี
สภาพศพใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเทา นุ่งกางกางกีฬาขาสั้น มีผ้าขาวม้าคาดอยู่ที่เอว ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขาด 9 มม. ที่หน้าผาก 1 นัด กลางหลัง 3 นัด นอนหงายจมกองเลือดอยู่บนพื้นปูนใกล้กับประตูหน้าบ้านที่ยังล็อกกุญแจอยู่ ใกล้ศพพบปลอกกระสุน 1 ปลอก และบนพื้นดินข้างบ้านอีก 1 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน บริเวณหน้าบ้านมีรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อคาวาซากิ สีเขียวอ่อน ทะเบียน กงท 808 ระนอง ของผู้ตายจอดอยู่ 1 คัน
สอบสวนทราบว่า นายอำพล ผู้ตายมีอาชีพรับจ้างฉีดยากำจัดวัชพืช ตัดแต่งกิ่งทุเรียน และทำสวนทุเรียนทวาย หรือทุเรียนนอกฤดูกาลให้แก่เจ้าของสวนทุเรียนหลายรายในพื้นที่ และได้พักอยู่บ้านหลังเกิดเหตุกับเมีย ลูกชายวัย 2 ขวบ และแม่ตนเอง รวม 4 คน ช่วงเกิดเหตุเมียและลูกชายได้เดินทางไม่เยี่ยมแม่ และญาติที่ จ.ระนอง ส่วนแม่ผู้ตายออกไปสวดมนต์กับชาวบ้านที่วัดในหมู่บ้าน ขณะเกิดเหตุ นายอำพล ขับรถจักรยานยนต์กลับมาจากดื่มเหล้าที่บ้านเพื่อน และจอดรถไว้ที่หน้าบ้าน ช่วงที่ นายอำพล กำลังจะเดินไปไขกุญแจประตูเข้าบ้าน คาดว่าคนร้ายซึ่งมาซุ่มดักรออยู่ในป่าละเมาะข้างบ้านก่อนแล้ว ได้ฉวยโอกาสเดินเข้าไปจ่อยิงกลางหลัง นายอำพล 3 นัด จนทรุดหงายลงกองกับพื้น จากนั้นคนร้ายได้จ่อยิงซ้ำกลางหน้าผากอีก 1 นัด จนแน่ใจว่าตายแล้ว จึงหลบหนีไปโดยไม่ทราบทิศทาง และยานพาหนะที่ใช้ในการหลบหนี
ส่วนสาเหตุจากแนวทางการสืบสวนสอบสวนของตำรวจทราบว่า นายอำพล ก่อนถูกยิงตายได้มีเรื่องทะเลาะกับเพื่อนบ้านคนหนึ่งซึ่งเป็นญาติกับอดีตนักการเมืองท้องถิ่นผู้กว้างขวางในพื้นที่ และเมื่อนายอำพล ดื่มเหล้าเมามักจะพูดจาด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรงให้เพื่อนบ้านที่เป็นคู่อริคนดังกล่าวได้ยินอยู่เป็นประจำ จึงอาจเป็นชนวนเหตุให้เกิดความโกรธแค้น และมาดักซุ่มยิงนายอำพล จนตายดังกล่าว แต่ตำรวจก็ยังไม่ตัดทิ้งประเด็นความขัดแย้งด้านอื่นๆ ที่กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงในการติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป