พังงา - ไส้เดือนนับหมื่นตัวหนีขึ้นมาจากใต้ดิน ที่ อบต.นบปริง จ.พังงา หลังเกิดแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตราในวันนี้ เผยเหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วช่วงเกิดสึนามิเมื่อปี 47 ด้านนักวิชาการระบุ ไส้เดือนจะขึ้นมาจากดินเมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง และอากาศสำหรับหายใจมีไม่เพียงพอ
วันนี้ (27 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่บริเวณหน้าที่ทำการ อบต.นบปริง อ.เมือง จ.พังงา พบไส้เดือนจำนวนมากได้ออกมาจากพื้นดินหลังจากมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ส่งผลให้ จ.ภูเก็ต จ.กระบี่ และ จ.พังงา สามารถรับรู้ถึงแรงสั่นไหวได้ โดยพบว่าพนักงานเจ้าหน้าที่ อบต.นบปริง ได้เข้ามุงดูเหตุการณ์แปลกประหลาด ที่บริเวณคูระบายน้ำหน้าที่ทำการ อบต.นบปริง มีไส้เดือนจำนวนนับหมื่นตัวได้ออกมาจากดินเลื้อยลักษณะมีการแตกตื่นต่อเหตุการณ์บางอย่างภายในคูระบายน้ำของทาง อบต. ระยะทางกว่า 400 เมตร ในช่วงเช้าหลังจากมีเหตุแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย
เจ้าหน้าที่ อบต.นบปริง รายหนึ่งบอกว่า เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาครั้งหนึ่งแล้วในช่วงเกิดเหตุการณ์สึนามิ เมื่อเดือนธันวาคม 2557 จึงทำให้หวาดวิตกว่าจะเกิดเหตุการณ์สึนามิขึ้นอีกหลังจากเกิดเหตุการณ์มาครบ 10 ปี
ทาง นายอภิสิทธิ์ ใสสด นายก อบต.นบปริง อ.เมือง จ.พังงา กล่าวว่า ในช่วงเช้าทาง อบต.นบปริง ได้จัดงานลงทะเบียนผู้สูงอายุอยู่นั้นพบว่า มีไส้เดือนจำนวนมากได้ขึ้นมาพ้นเหนือดินเหมือนลักษณะหนีเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 07.16 น. ของวันนี้ (27 ต.ค.) หลายคนเชื่อว่า เหตุการณ์นี้น่าจะเกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหวเนื่องจากปกติไม่มีไส้เดือนลักษณะอย่างที่เห็น
ทางด้าน นายเชาวรัตน์ ทองญวน นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการพิเศษ สนง.เกษตรจังหวัดพังงา กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตามหลักวิชาการ พบว่า ไส้เดือนดินจะโผล่เหนือพื้นดินในปริมาณมากๆ สาเหตุเนื่องจากอากาศใต้ดินไม่เพียงพอสำหรับการหายใจ เช่น ในกรณีมีน้ำใต้พื้นดินมาก ทำให้ไส้เดือนโผล่ขึ้นมาหายใจ หรือหนีไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย หรือกรณีอาจจะตกใจเมื่อมีสิ่งผิดปกติ หรือสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลง สำหรับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นนั้นก็อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สภาพแวดล้อมใต้พื้นดินมีการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ทำให้ไส้เดือนมีอาการตกใจต่อสภาพที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน จึงได้โผล่ขึ้นเหนือพื้นดินเพื่อหาที่เหมาะสม และปลอดภัย