ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อบจ.ภูเก็ต ร่วมกับ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต จัดงาน “ฮิจเราะฮ์ศักราช 1436” ยิ่งใหญ่ พร้อมมอบโล่เกียรติยศผู้ทำคุณประโยชน์แก่สังคม จำนวน 4 ราย
เมื่อเวลา 20.30 น. วานนี้ (24 ต.ค.) ที่บริเวณเวทีกลางสะพานหิน นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดงานฮิจเราะฮ์ศักราช 1436 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-25 ต.ค.57 นี้ โดยมี นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ด.ต.โกมล ดุมลักษณ์ ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดภูเก็ต คณะผู้บริหาร สมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนประชาชนเข้าร่วม
นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานฮิจเราะฮ์ศักราช 1436 ว่า เพื่อให้ชาวมุสลิมในจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียงได้ร่วมกิจกรรมเพื่อย้อนรอยประวัติศาสตร์การเดินทางเผยแผ่ศาสนาของท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ.ล.) เพื่อให้ชาวมุสลิม และประชาชนทั่วไปได้รับทราบข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับประวัติ และการดำเนินงานทางศาสนาอิสลาม และส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมสำหรับประชาชนให้เกิดขึ้นในสังคม เพื่อปลูกฝังจิตสำนึก การอนุรักษ์จารีตประเพณี ประวัติศาสตร์อันงดงาม การมีศีลธรรมและคุณธรรมให้แก่เด็กและเยาวชนในจังหวัดภูเก็ต และเพื่อส่งเสริมความสามัคคี ปรองดองสมานฉันท์ และลดความขัดแย้งของประชาชนในจังหวัดภูเก็ตอีกด้วย
สำหรับศักราชของอิสลามใช้คำว่าฮิจเราะฮ์ศักราช ใช้ตัวอักษรย่อว่า “ฮ.ศ.” คำว่า ฮิจเราะฮ์ หมายถึง “การอพยพ” คือ การอพยพของท่านศาสดานบีมุฮัมมัด และบรรดาผู้ศรัทธาจากเมืองมักกะห์ สู่เมืองมะดีนะห์ หลังจากที่ท่านนะบีมุฮัมมัด ได้เสียชีวิตแล้ว ท่านเคาะลีฟะฮ์อุมัร อิบนุคอฎฎ็อบ เป็นผู้นำอาณาจักรอิสลามคนที่สอง ในยุคต่อจากท่านอุมัร คอลิฟะฮฺอบูบักร์ ได้ร่วมปรึกษากันว่า ยุคของอิสลามควรจะต้องมีการนับศักราชเพื่อใช้ในการกำหนดวัน เดือน ปี เช่นเดียวกันกับอารยธรรมอื่นๆ แต่การเริ่มศักราชของอิสลามจะเริ่มเมื่อใดนั้น ได้มีบรรดาอัครสาวกที่ใกล้ชิดของท่านศาสดานบีมุฮัมมัด และบรรดาผู้ศรัทธาที่นับถือศาสนาอิสลามในเวลานั้นเสนอแนวทางในการกำหนดศักราชอิสลาม 4 แนวทาง ซึ่งข้อสรุปในที่ประชุมได้มีมติให้ถือเอาปีที่ท่านนะบีมุฮัมมัด อพยพจากนครมักกะห์สู่ นครมะดีนะห์เป็นปีที่มีความสำคัญในการเริ่มแผ่ขยายการเผยแพร่ศาสนาอิสลามอย่างเปิดเผยจนประสบกับความสำเร็จในเวลาต่อมา จึงเริ่มต้นนับศักราชของอิสลามตั้งแต่ปีที่ท่านนะบีมุฮัมมัด และบรรดามุสลิมได้อพยพจากมักกะห์สู่มะดีนะห์ คือ ฮิจเราะฮ์ศักราช (ฮ.ศ.) นับแต่นั้นเป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม สำหรับซุ้มกิจกรรมภายในงานประกอบไปด้วย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สหกรณ์ออมทรัพย์ โรงพยาบาล อบจ. ห้องสมุดเคลื่อนที่ การเลี้ยงแกะ และนิทรรศการกลาง นิทรรศการประวัติศาสตร์อิสลาม และนิทรรศการขององค์กรต่างๆ การบรรยายธรรมทางวิชาการศาสนา กิจกรรมของเด็กและเยาวชน จากศูนย์จริยธรรมอิสลาม รวมถึงการจำหน่ายสินค้า และอาหารฮาลาล ฯลฯ อีกทั้งยังมีการมอบโล่เกียรติยศผู้ทำคุณประโยชน์แก่สังคม จำนวน 4 ราย