อดีต ส.ส.กระบี่ ฝีปากกล้าล้มป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ทำใจไร้เพื่อนเหลียวแล

กระบี่ - “สมบูรณ์ สิทธิมนต์” อดีต ส.ส.กระบี่ 2 สมัย ดาวสภาฝีปากกล้าผู้ใช้ภาษาไทยได้ดีเยี่ยม ล้มป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงมานานกว่า 2 ปี ปัจจุบันทรุดหนักต้องนอนบนเตียงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทำใจไร้เพื่อนฝูงการเมืองเหลียวแล พร้อมฝากเตือนนักการเมืองระมัดระวังการใช้ภาษาไทย

เมื่อวันนี้ (22 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายว่า ได้รับแจ้งจาก นายสเสฏฐสิฏฐ สิทธิมนต์ หรือที่รู้จักกันในนามนายสมบูรณ์ หรือครูบูรณ์ นักการเมืองผู้โด่งดังของภาคใต้ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/3 ม.1 ต.คลองหิน อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกระบี่ 2 สมัย และอดีตดาวสภาฝีปากกล้า และเป็น ส.ส.ที่ใช้ภาษาไทยได้อย่างดีเยี่ยม และมีความโดดเด่นในการอภิปรายในสภา

ซึ่งปัจจุบัน ได้ล้มป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงมาเป็นเวลานานกว่า 2 ปี ต้องนอนอยู่บนเตียงภายในบ้านพัก ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ลูกเมียต้องผลัดคอยดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนายสมบูรณ์ นอนบนเตียงภายในบ้าน โดยมีชาวบ้านที่เคยรู้จักมาเยี่ยมเยียนไม่ขาดสาย นายสมบูรณ์ ได้พูดคุยทักทายทุกคนอย่างเป็นกันเอง และหยอกล้อตามสไตล์นักการเมืองฝีปากกล้า และมักจะให้ข้อคิดดีๆ แก่คนที่ไปเยี่ยมเยียน

“นายสมบูรณ์ สิทธิมนต์” ได้ตายไปแล้ว ไม่มีใครรู้จักอีกต่อไป แม้แต่เพื่อนฝูงที่เคยเป็นนักการเมืองด้วยกัน ซึ่งตนไม่ได้โกรธเคืองใคร เพราะเป็นปกติของนักการเมืองอยู่แล้ว หลังจากวางมือทางการเมืองในปี 51 เนื่องจากสุขภาพก็ย่ำแย่มาตลอด และเมื่อเดือนเมษายนปี 55 ตนก็ล้มป่วยด้วยโรค RIC หรือที่เรียกว่าโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่สามารถลุกเดินไปไหนมาไหนได้ ต้องนอนอยู่กับที่ ลูกเมียก็ตระเวนพาไปรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น

สุดท้ายต้องยอมรับสภาพเนื่องจากค่าใช้จ่ายสูง ตอนนี้จึงต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่บ้านตามอัตภาพ แม้ต้องนอนอยู่บนเตียงแต่พยายามใช้เวลาว่างศึกษาหาความรู้ และติดตามข่าวความเคลื่อนไหวทางการเมืองของประเทศต่อเนื่อง และใช้ความรู้ทางด้านภาษาไทย จากการที่เคยเป็นครูมาก่อน ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ภาษาไทยกับองค์กรต่างๆ และช่วยเรียบเรียงขัดเกลา หนังสือแปล แต่ตนยังขาดอุปกรณ์ในการอำนวยความสะดวก จึงต้องให้คนอื่นช่วยพิมพ์ให้ และหากมีรถเข็นให้นั่งได้ตนยังพร้อม และยินดีที่จะไปบรรยายถ่ายทอดประสบการณ์ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ

นายสมบูรณ์ เล่าถึงอดีตช่วงที่ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างปี พ.ศ.2529-2531 สังกัดพรรค ปชป. และระหว่างปี 2531-2534 สังกัดพรรคเอกภาพ ตนมีความภูมิใจที่ได้ใช้ความรู้ความสามารถทำหน้าที่ได้มีส่วนช่วยบ้านเมืองในช่วงนั้น เช่น การอภิปรายคัดค้านกฎหมายสิทธิบัตรให้แก่ต่างชาติ ซึ่งหากปล่อยให้ผ่านทำให้ประเทศชาติสูญเสียผลประโยชน์ และอภิปรายการคัดค้านร่าง พ.รบ.เวนคืนที่ดิน ซึ่งหากร่าง พ.ร.บ.นี้ผ่านไปได้ก็จะกระทบต่อวิถีชุมชน

นอกจากนั้น ได้เป็นประธานกรรมาธิการวัฒนธรรมและสิ่งล้อม สภาผู้แทนราษฎร และในด้านสังคม เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ เป็นพิธีกรหลักในงานการกุศลต่างในจังหวัดกระบี่ การผลักดันให้เกิดการระดมทุนสร้างมัสยิดกลางจังหวัดกระบี่ จนประสบความสำเร็จ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ขอฝากอุทาหรณ์ให้แก่นักการเมืองยุคปัจจุบันว่า ขอให้พยายามต่อสู้ในเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชัน ไม่ใช่ปากว่าตาขยิบ และให้ยกย่องส่งเสริมคนดี ต่อต้านคนที่คดโกง เชื่อว่ายังมีนักการเมืองที่ดีอยู่อีกเยอะ แต่ยังขาดโอกาส

“ฝากไปยังคนที่ทำงานด้านสื่อ รวมถึงนักการเมืองควรที่จะระมัดระวังในการใช้ภาษาไทยให้มาก เพราะยังใช้ไม่ถูกต้องเท่าที่ควร เพราะภาษาไทยเป็นภาษาที่สวยงาม ต้องช่วยกันรักษา” นายสมบูรณ์ กล่าว