ตรัง - ผู้การตรังระบุคดียิงถล่มอดีตผู้ใหญ่บ้าน ต.นาตาล่วง เสียชีวิต และหลานสะใภ้บาดเจ็บสาหัส มีสาเหตุจากเครือข่ายค้ายาเสพติดตามทวงหนี้ธุรกิจบางอย่างจากลูกชายผู้ตาย ตร.เผยรู้เบาะแสกลุ่มคนร้ายแล้วแต่เปิดเผยไม่ได้ สั่งเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมต่อไป
จากกรณีที่ได้มีคนร้ายบุกเข้าไปภายในบ้านเลขที่ 39/2 บ้านป่าหมาก ม.4 ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง แล้วใช้อาวุธปืนสงครามชนิดอาก้ากราดยิง นายเจริญ จันทิวานนท์ อายุ 68 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง กระสุนถูกเข้าที่บริเวณใต้รักแร้ขวา กระสุนทะลุหลัง จำนวน 1 นัด จนเสียชีวิต แล้วยังบุกเข้าไปในห้องนอน ยิง น.ส.สุกัญญา มณีศรี อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 ม.5 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นหลานสะใภ้ของ นายเจริญ กระสุนถูกเข้าที่บริเวณขาทั้ง 2 ข้าง จำนวน 2 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น
วันนี้ (17 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง ได้เดินทางไปยังบริเวณบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อตรวจสอบสถานที่ พร้อมสอบถามพยานต่างๆ ที่เห็นเหตุการณ์ โดยสามารถเก็บพยานวัตตุได้ เป็นปลอกกระสุนชนิดเอเค 47 จำนวน 3 ปลอก และแกนกระสุนที่ฝังอยู่ในเก้าอี้โซฟาที่ผู้เสียชีวิตนั่ง อีกจำนวน 1 ชิ้น นอกจากนั้น จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบด้วยว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายได้ล่อลวง นายวิรัตน์ จันทิวานนท์ อายุ 40 ปี บุตรชายของผู้เสียชีวิต ให้ไปพบที่หลังโรงเรียนกีฬา จ.ตรัง บริเวณ ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว เพื่อตกลงเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจบางอย่าง
ทั้งนี้ เมื่อนายวิรัตน์ ได้เดินทางไปพบที่บริเวณดังกล่าว กลุ่มคนร้ายประมาณ 4-5 คน ซึ่งใช้รถเก๋งเป็นพาหนะ ได้เปิดประตูรถออกมาแล้วใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่ นายวิรัตน์ ทันที แต่โชคดีที่อาวุธปืนเกิดขัดลำกล้องทำให้กระสุนไม่ลั่น นายวิรัตน์ จึงรีบขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี กลุ่มคนร้ายเกิดความแค้นจึงขับขี่รถยนต์ไล่ติดตาม นายวิรัตน์ มาจนถึงบ้านที่เกิดเหตุ ก่อนเข้าไปสอบถาม นายเจริญ ผู้เสียชีวิตว่า บุตรชายอยู่หรือไม่ แต่เมื่อผู้เป็นพ่อบอกว่าไม่อยู่ กลุ่มคนร้ายจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ร่างทันที หลังจากนั้น ได้เข้าไปค้นหาตัว นายวิรัตน์ ภายในบ้าน ก่อนยิง น.ส.สุกัญญา หลานสะใภ้ ได้รับบาดเจ็บแล้วหลบหนีไป
พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า จากการลงตรวจสอบพื้นที่ และเก็บพยานหลักฐานเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มที่พัวพันต่อการค้ายาเสพติดรายใหญ่ และอาจติดตามทวงหนี้ธุรกิจบางอย่างจากบุตรชายของผู้เสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้เบาะแสแล้วว่า คนร้ายกลุ่มนี้เป็นใคร แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน ทั้งนี้ จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อกลุ่มคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด