ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวประมงพื้นบ้านชายฝั่งทะเล 6 อำเภอใน จ.สงขลา เริ่มหยุดทำการประมง และหันมาประกอบอาชีพรับจ้างอื่นแทน เพื่อหารายได้หลังมีคลื่นลมแรงในช่วงฤดูมรสุม ด้านอุตุฯ เตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงภาคใต้ฝั่งตะวันออก ระวังภัยจากฝนตกหนัก และปริมาณฝนตกสะสม
วันนี้ (16 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยที่เริ่มมีกำลังแรงขึ้น เนื่องจากภาคใต้ฝั่งตะวันออกย่างเข้าสู่ฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ชาวประมงพื้นที่ชายฝั่งทะเล 6 อำเภอของ จ.สงขลา ทั้ง อ.จะนะ อ.เทพา อ.สทิงพระ อ.สิงหนคร อ.ระโนด และ อ.เมืองสงขลา เริ่มหยุดออกทำการประมงแล้ว เช่น ที่ชุมชนชาวเลบ้านเก้าเส้ง อ.เมืองสงขลา ซึ่งรอบนี้ต้องหยุดยาวถึง 3 เดือน
เนื่องจากเป็นช่วงฤดูมรสุมที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปีของทุกๆ ปี โดยชาวเรือประมงได้นำเรือขึ้นมาจอดไว้บนฝั่งเพื่อป้องกันคลื่นซัดเรือกระแทกกับชายหาดได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ ชาวประมงพื้นบ้านต่างหันไปประกอบอาชีพอรับจ้างอื่นๆ แทน เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัวในช่วงที่หยุดออกเรือทำการประมง
ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้ออกประกาศเตือนฉบับที่ 8 เรื่อง ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก และคลื่นลมแรงในอ่าวไทย ร่องความกดอากาศต่างยังคงพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง และ จ.สงขลา
ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และปริมาณฝนตกสะสมต่อไปอีก 1-2 วันนี้ สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ความสูงของคลื่นประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังในช่วงเวลาดังกล่าว
