ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจ สภ.กะรน จ.ภูเก็ต ไอเดียเจ๋งสุดๆ ผุดโครงการให้นักท่องเที่ยวแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น ทั่วทั้งหาดกะตะ กะรน เพื่อเพิ่มช่องทางการแจ้งความให้นักท่องเที่ยว และประชาชน รวมทั้งเพื่อให้ตำรวจเข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุด ติดป้ายประชาสัมพันธ์สื่อสารถึงนักท่องเที่ยวทั้งภาษาไทย อังกฤษ จีน และรัสเชีย เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ว่า ภูเก็ตปลอดภัย
จากกรณีที่สถานีตำรวจกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้ขึ้นป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งให้นักท่องเที่ยวและชาวภูเก็ตได้รับทราบถึงช่องทางการแจ้งเหตุที่เกิดขึ้นทั่วพื้นที่หาดกะตะ กะรน เมื่อเร็วๆ นี้ ด้วยข้อความที่ว่า หากท่านถูกประทุษร้ายต่อทรัพย์ในพื้นที่กะตะ กะรน สามารถแจ้งเหตุได้ที่ โทร.0-7639-6393 หรือร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น-อีเลฟเว่น” ในพื้นที่กะตะ กะรน ทุกสาขา ด้วยความปรารถนาดีจาก สภ.กะรน ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษารัสเซียนั้น ได้แพร่กระจายไปตามโซเชียลต่างๆ นั้น
พ.ต.อ.พีระยุทธ์ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ป้ายดังกล่าวเป็นความร่วมมือของสถานีตำรวจกะรน กับผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น ทั้ง 10 สาขา ในพื้นที่กะตะ กะรน ที่จะอำนวยความสะดวก และเพิ่มช่องทางให้นักท่องเที่ยว หรือประชาชนชาวภูเก็ตในการแจ้งเหตุที่เกิดขึ้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบ โดยทาง สภ.กะรน เล็งเห็นว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือคนไทยที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ เมื่อเกิดเหตุขึ้นไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการชิงทรัพย์ หรืออื่นๆ จะต้องใช้เวลาในการเดินทางมาแจ้งความที่สถานีตำรวจ และบางคนไม่ทราบด้วยซ้ำว่า สถานีตำรวจกะรนอยู่ตรงจุดไหน กว่าจะมาถึงสถานีตำรวจคนร้ายก็หนีไกลแล้ว
ทางสถานีตำรวจกะรน จึงได้ทำโครงการดังกล่าวขึ้นมาเพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางในการแจ้งเหตุของนักท่องเที่ยว โดยให้นักท่องเที่ยวสามารถแจ้งเหตุที่เกิดขึ้นต่อพนักงานของร้านสะดวกซื้อดังกล่าว เมื่อพนักงานร้านสะดวกซื้อได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวแล้วก็จะแจ้งต่อมายังสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะเดินทางไปที่เกิดเหตุในทันท่วงที เพราะร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น กระจายอยู่ทั่วทั้งพื้นที่กะตะ กะรน ซึ่งขณะนี้เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 10 แห่ง
พ.ต.อ.พีระยุทธ์ กล่าวอีกว่า การดำเนินการในลักษณะดังกล่าวของสถานีตำรวจกะรน เป็นเสมือนการเพิ่มป้อมตำรวจ และที่พักสายตรวจ เพราะการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้เร็วที่สุดก็จะสามารถสกัดกั้นคนร้ายได้รวดเร็วไปด้วยเช่นกัน และขณะนี้ ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าวมาก กำลังคิดว่าจะขยายโครงการให้ครอบคลุมทั่วทั้งเกาะภูเก็ต เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว และความรวดเร็วในการสกัดกั้นคนร้ายอีกด้วย เพราะในภูเก็ตมีร้านสะดวกซื้อเป็นจำนวนมาก และในส่วนของร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่นก็มีถึง 340 สาขา หากทุกสาขาเข้าร่วมก็จะเกิดประโยชน์มาก
ด้าน พ.ต.ต.พรณรงค์ การอรชัย สวป.สภ.กะรน เจ้าของโครงการแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น กล่าวว่า สถานีตำรวจกะรนได้มีความคิดที่จะทำโครงการให้นักท่องเที่ยวแจ้งเหตุที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น มาตั้งเดือน พ.ค.ปีที่แล้ว จากนั้นจึงได้นำโครงการดังกล่าวเข้าหารือ และขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการตำรวจ สภ.กะรน (กต.ตร.) ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าวประกอบไปด้วย หน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนในพื้นที่กะตะ กะรน ซึ่งคณะกรรมการก็เห็นชอบที่จะให้ทาง สภ.กะรน ดำเนินโครงการดังกล่าว จนกระทั่งปี 2557 กต.ตร.สภ.กะรน เห็นด้วยที่จะให้ดำเนินการดังกล่าว เพราะจะเกิดประโยชน์ต่อนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการติดต่อสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับร้านสะดวกซื้อ และเพื่อขอความร่วมมือให้ร้านสะดวกซื้อช่วยทำหน้าที่เป็นจุดรับแจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย ให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่ร้านสะดวกซื้อ ประชาชน และนักท่องเที่ยวตำบลกะรนต่อไป
โดยได้เริ่มโครงการมาตั้งแต่เดือน ก.ค.57 นี้ ด้วยการอบรมพนักงานของร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น ให้เข้าใจถึงความเสี่ยง และการรับแจ้งเหตุจากนักท่องเที่ยว เมื่ออบรมพนักงานแล้วเสร็จก็ได้นำสติกเกอร์ที่ระบุเบอร์โทรศัพท์รับแจ้งความของ สภ.กะรน ไปติดตามร้านที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมทั้งได้เปิดไลน์กลุ่มในการรับแจ้งเหตุต่อทางพนักงานร้านสะดวกซื้อ ซึ่งหลังจากพนักงานร้านสะดวกซื้อแจ้งเข้ามา ตำรวจจะไปถึงที่เกิดเหตุไม่เกิน 5 นาที
ขณะนี้ได้ติดป้ายประชาสัมพันธ์ไปแล้วกว่า 10 ป้ายทั่วทั้งหาดกะตะ กะรน เป็นภาษาไทย อังกฤษ จีน และรัสเชีย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ในการดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว เพราะการได้รับแจ้งเหตุรวดเร็วจะทำให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าพื้นที่เกิดเหตุ และสกัดกั้นคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ