xs
xsm
sm
md
lg

แฉสัมพันธ์ 2 นักโทษหนีคุก! “เสี่ยโจ้” ใต้ปีกโอบ “ระบอบทักษิณ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เสี่ยโจ้ หรือ นายสหชัย เจียรเสริมสิน เมื่อครั้งเดินทางไปเยี่ยมคารวะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
 
ถึงวันนี้ “เสี่ยโจ้” หรือ “นายสหชัย เจียรเสริมสิน” นักโทษหนีคุกจากคำสั่งศาลจังหวัดปัตตานี ยังคงหายตัวเข้ากลีบเมฆไปได้อย่างไร้ร่องรอย แม้จะมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยทั้งตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองออกติดตามจับกุมแบบแทบจะพลิกแผ่นดินปลายด้ามขวานแล้วก็ตาม
 
“เสี่ยโจ้” หลบหนีคำพิพากษาให้จำคุก 1 ปี 9 เดือน โดยไม่รอลงอาญาของศาลจังหวัดปัตตานี ฐานปลอมแปลงเอกสารตราประทับ ก่อนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา
 
แต่กลับมีเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้เขาหลบหนีศาลได้ลงโทษจำคุก 6 เดือนไปแล้ว คือ ร.ต.ต.อรุณ ศรีทองสุข อายุ 59 ปี รองสารวัตรปราบปราม สภ.เมืองปัตตานี ช่วยราชการคุมผู้ต้องหาประจำศาลจังหวัดปัตตานี และภายหลังยอมรับสารภาพได้ลดโทษลงเหลือ 3 เดือน แต่ก็ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 มีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี นอกจากนี้ ยังมีการซัดทอดนายดาบตำรวจอีก 4 นาย ที่มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
 
เวลานี้เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งลงพื้นที่สกัดจับ และปิดทางออกนอกประเทศทุกทาง และชุดสืบสวนออกแกะรอยในพื้นที่ จ.นราธิวาส หลังพบรายงานว่า เขาหลบหนีไปซุกใต้ปีกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เพื่อเตรียมเดินทางออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านทางด่านชายแดน อ.สุไหงโก-ลก หรือไม่ก็ อ.ตากใบ
 
ก่อนที่จะถูกศาลพิพากษาให้จำคุก มีรายงานว่าเขาได้ต่อสายตรงถึงบุรุษสีกากีที่เคยเป็นใหญ่อยู่ในพื้นที่ เพื่อขอให้ช่วยเหลือเรื่องคดี รวมถึงทางหนีทีไล่ไว้รองรับแล้วด้วย
 
นี่คือความไม่ธรรมดาของ “เสี่ยโจ้-นายสหชัย เจียรเสริมสิน” อย่างแน่นอน!!
 
เสี่ยโจ้-นายสหชัย เจียรเสริมสิน ร่วมรดน้ำดำหัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อช่วงสงกรานต์ปีนี้
 
สำหรับหนุ่มใหญ่วัย 46 ปี ที่ถูกมองว่าเป็นนักธุรกิจสีเทาผู้นี้ พื้นเพเป็นชาวเพชรบุรี ประมาณ 20 ปีที่แล้วได้ย้ายตามครอบครัวมาทำธุรกิจประมงที่ปัตตานี ปัจจุบัน เป็นเจ้าของ “ห้างหุ้นส่วนจำกัด สหทรัพย์ทวีค้าไม้” เลขที่ 103/49 ถ.นาเกลือ ม.8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี เป็นผู้นำเข้าไม้จากต่างประเทศ เป็นเจ้าของเรือประมงหลายลำพร้อมๆ กับทำธุรกิจค้าน้ำมันในทะเลควบคู่ไปด้วย อีกทั้งยังมีธุรกิจในมืออีกหลายอย่าง
 
ว่ากันว่าเขาเป็นนักธุรกิจทางพื้นที่ภาคใต้ที่ฝ่ายความมั่นคงรู้จักเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องของน้ำมันเถื่อน และหวยใต้ดิน รวมถึงมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายในทุกยุคทุกสมัย ไม่เว้นกระทั่งรัฐบาลประชาธิปัตย์ และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
 
หลังจากต้นปี 2547 ที่ไฟใต้ระลอกใหม่คุโชนขึ้นมาบนแผ่นดินชายแดนใต้จากฝีมือของระบอบทักษิณ ชื่อของเขาก็เริ่มเป็นที่จับตาของฝ่ายความมั่นคง และช่วง 2-3 ปีมานี้กลับกลายเป็นที่รู้จักชนิดมีการโจษขานแบบติดหู มีภาพติดตาคนชายแดนใต้ เพราะเคยถูกควบคุมตัว และโดนค้นบ้านพักหลายครั้ง ซึ่งก็มีการตรวจพบทรัพย์สินมากมายหลายร้อยล้านบาททีเดียว
 
อย่างช่วงปลาย ต.ค.2556 มีข่าวเกี่ยวข้องกับแก๊งขนเงินทั้งสกุลดอลลาร์สิงคโปร์ และริงกิตมาเลเซีย มูลค่ากว่า 120 ล้านบาท ที่ซุกอยู่ในลังเบียร์เก่าๆ ขึ้นเรือ “สถาพรวัฒนา” มุ่งไปยังเกาะโลซิน เกาะร้างที่ห่างจากชายฝั่งของ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ประมาณ 72 กิโลเมตร แต่ขเรื่องมาแตกเพราะถูกดักปล้นกลางทะเล ซึ่งในเวลานั้นมีคำถามแซดในสังคมว่า เงินจำนวนมหาศาลที่ขนไปนั้นได้มาจากธุรกิจผิดกฎหมายหรือไม่
 
เสียดายที่เรื่องราวครั้งนั้นหายเข้ากลีบเมฆไปเสียก่อนที่จะมีการเปิดเผยโฉมหน้าระดับ “วีไอพี” ผู้เป็นเพื่อนซี้ทางธุรกิจของเขา มีเพียงเสียงแว่วๆ พอให้ได้ยินว่า เป็นหลานคนดังในพรรคการเมืองหนึ่ง
 
จดหมายของ เสี่ยโจ้-นายสหชัย เจียรเสริมสิน ขอความเป็นธรรมและขอบารมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
 
อีกทั้งยังมีเรื่องเล่าขานกันหนาหูว่า เขายอมทุ่มทุนปูพรมจ่ายใต้โต๊ะให้นักการเมืองระดับประเทศ ผู้มีอำนาจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับยศ “พล.ต.ต.” ไล่ไปถึงระดับ “ดาบตำรวจ” คิดเป็นเงินเดือนละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เพื่อให้ทั้งหมดช่วยเป็นลวดหนามป้องกันเครือธุรกิจสีเทาจนถึงดำ ที่มีเงินไหลผ่านหมุนเวียนเดือนละไม่ต่ำกว่าพันล้านบาท
 
โดยมีหลักฐานบางส่วนที่ถูกเผาทำลายไปหมดแล้ว หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าตรวจค้นตั้งแต่ปลายปี 2555 ซึ่งยังมีการเชื่อมโยงเงินไหลเวียนของเขากับเหตุความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้เข้าด้วยกัน เพราะยิ่งหากสถานการณ์รุนแรงเท่าไหร่ ธุรกิจมืดก็จะเดินสะดวกมากขึ้นเป็นเท่าตัว
 
แท้จริงเรื่องราวไม่ธรรมดาของ “เสี่ยโจ้-นายสหชัย เจียรเสริมสิน” หามีเท่านี้ไม่!!
 
ล่าสุด มีสิ่งที่สามารถระบุได้ว่า เขาก็คือหนึ่งในนักธุรกิจสีเทาที่อยู่ใต้ปีกโอบของ “ระบอบทักษิณ” ผู้มีฐานที่มั่นอยู่บนแผ่นดินปลายด้ามขวานที่ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” จุดไม้ขีดโยนใส่อาจจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่กลับใช้เบนซินแทนน้ำในการราดรดเพื่อดับไฟใต้
 
เสี่ยโจ้-นายสหชัย เจียรเสริมสิน ถ่ายกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ระลึก
 
สิ่งนี้ยืนยันได้จากเมื่อช่วงสงกรานต์ของปีนี้ “เสี่ยโจ้” ได้เดินทางออกจากเมืองไทยไปเยี่ยมคารวะนักโทษหนีคุกรุ่นพี่ผู้โด่งดังระดับโลก โดยมีทั้งภาพถ่าย รวมถึงจดหมายขอความเป็นธรรม และขอพึ่งบารมีอดีตนายกรัฐมนตรีผู้ยิ่งใหญ่แต่ไร้แผ่นดินอยู่ผู้นั้น
 
ทั้งนี้ เนื้อหาในจดหมายที่ “เสี่ยโจ้-นายสหชัย เจียรเสริมสิน” ทำถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รายละเอียดดังนี้...
 
“ทำที่ จ.ปัตตานี วันที่ 3 เมษายน 2557 เรื่อง ขอความเป็นธรรม และขอบารมี ฯพณฯ กราบเรียน ฯพณฯ นายกฯ ทักษิณ ชินวัตร...
 
“กระผม นายสหชัย เจียรเสริมสิน ครับ ต้องกราบขอบพระคุณ ฯพณฯ ที่ได้ช่วยเหลือแก้ไขความเดือดร้อนให้แก่กระผม ซึ่งกระผมซาบซึ้งในพระคุณของ ฯพณฯ เป็นอย่างมาก ปัญหาของกระผมที่ท่านรับทราบบ้างแล้วนั้น ยังมีบางเรื่องที่กระผมเองโดยลำพัง หรือกำลังที่มีอยู่ไม่สามารถแก้ไขได้ ทั้งที่กระผมได้พยายามเต็มที่แล้วครับ กระผมเองก็เกรงใจ ฯพณฯ ครับ แต่ไม่รู้จะพึ่งพาอาศัยบารมีผู้ใด...
 
เสี่ยโจ้-นายสหชัย เจียรเสริมสิน เมื่อครั้งถูกเจ้าหน้าที่บุกค้นบ้านจนเป็นข่าวคึกโครม
 
“กระผมทำธุรกิจเกี่ยวกับน้ำมันนอกน่าน้ำประเทศไทย ก่อนหน้านี้ กระผมได้รบกวนบารมี ฯพณฯ มาแล้ว ก็แก้ไขได้ระดับหนึ่ง แต่ตอนนี้มี “รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (พล.ต.ต.โกวิท วงศ์รุ่งโรจน์)” ได้ส่ง “พ.ต.อ.สมชาติ ศุภวุฒิ” ลงมาเป็น “ผกก.ตำรวจน้ำสงขลา” ผมได้พยายามเจรจา ดูแล และช่วยภารกิจต่างๆ แต่ท่านโกวิทปฏิเสธไม่ยอมรับการดูแลของกระผม รวมถึงท่าน พ.ต.อ.สมชาติ ด้วย…
 
“โดยเฉพาะ พ.ต.อ.สมชาติ สั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาปิดท่าเรือในจังหวัดสงขลา ปัตตานี และนราธิวาส ห้ามเรือในเครือข่ายของกระผมออกจากฝั่ง แต่อนุญาตให้คู่แข่งของกระผมทำการได้ โดยไม่จับกุม คอยกลั่นแกล้งกระผม ซึ่งก็ไม่ทราบเหตุผล ทั้งที่ก่อนหน้านี้ กระผมเองก็เคยดูแลมาโดยตลอด…
 
ห้างหุ้นส่วนจำกัด สหทรัพย์ทวีค้าไม้ ของเสี่ยโจ้-นายสหชัย เจียรเสริมสิน ใน จ.ปัตตานี
 
“กระผมเองพร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎกติกาทุกประการ แต่การประกาศปิดเรือของกระผมนั้นไม่เป็นธรรม เป็นการเลือกปฏิบัติ กระผมทำธุรกิจเกี่ยวกับน้ำมันนอกน่านน้ำไทย ไม่ได้กระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศแต่อย่างใด กระผมทราบว่า ท่านรองผู้บัญชาการโกวิท ร่วมมือกับนักธุรกิจน้ำมันรายใหม่ เข้าทำการค้าน้ำมันแข่งกับกระผม กระผมไม่ได้คิดจะแข่งกับใคร ขอให้ทุกคนได้ทำมาหากินกันโดยสงบ…
 
“กระผมจึงจำเป็นต้องขออาศัยบารมี ฯพณฯ อีกครั้งหนึ่ง ขอได้โปรดช่วยกระผมด้วยครับ ช่วยขอความอนุเคราะห์จากผู้เกี่ยวข้องให้กระผมมีที่ยืนบ้าง ทั้งนี้ กระผมเองขอกราบเรียนด้วยว่า ที่ผ่านมาได้สนับสนุนการเมืองฝ่ายเราด้วยความเสียสละ และจริงใจเสมอมา โดยจะคงยืนหยัดเช่นนี้ตลอดไปครับ”
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น