ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ติดตามความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมจัดแข่งขันกีฬาเอเชียนบีชเกมส์ ครั้งที่ 4 เผยผลดำเนินการเป็นที่พอใจ มีการเตรียมพร้อมไปหลายจุด พร้อมเชิญชวนทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมเป็นเจ้าภาพ และจะต้องทำให้การแข่งขันกีฬาในครั้งนี้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่การท่องเที่ยวในภาพรวมทั้งภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียง
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (8 ต.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนบีชเกมส์ ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 14-23 พ.ย.นี้ ที่ จ.ภูเก็ต โดยประชุมร่วมกับ นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายมนตรี ไชยพันธุ์ รักษาการผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน หอการค้า สภาอุตสาหกรรมเกี่ยวกับเรื่องการมีส่วนร่วมต่อการจัดการแข่งขัน ตลอดจนแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา และรวมทั้งรับฟังปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะต่างๆ ทั้งในด้านความพร้อมของสนามแข่งขัน ด้านที่พัก อาหาร ด้านขนส่ง อาสาสมัคร ด้านพัฒนาเมือง ฯลฯ
นางกอบกาญจน์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า จากการลงมาประชุมติดตามงานในวันนี้ก็ค่อนข้างพอใจในแง่การทำงานของทุกฝ่ายซึ่งมีความก้าวหน้า มีการเตรียมพร้อมกันไปหลายจุดค่อนข้างมาก แต่สิ่งที่สำคัญคือ การทำให้ภาคเอกชน ภาคประชาคมได้มีส่วนร่วม เพราะว่าการจัดการแข่งขันกีฬาไม่ได้เน้นเฉพาะแค่ว่ามีการแข่งขันระดับโลกในภูเก็ตเท่านั้น แต่ว่าการแข่งขันกีฬาควรจะเป็นการแข่งขันกีฬาที่นำมาซึ่งการท่องเที่ยว การสร้างความรู้ความเข้าใจ การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียง เป็นการกระตุ้นในแง่ของภาคเศรษฐกิจ ภาคธุรกิจ แล้วก็สร้างความรู้สึกที่ดีให้แก่ประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง
โดยการแข่งขันกีฬาเอเชียนบีชเกมส์ ครั้งนี้ จะมีนักกีฬา จำนวน 2,649 คน จาก 42 ประเทศ เดินทางมาร่วมทำการแข่งขันกีฬา และมี 26 ชนิดกีฬา กีฬาบางชนิดกีฬาไม่เคยจัดแข่งมาก่อน เพิ่งจะมาจัดการแข่งขันครั้งแรกที่ภูเก็ต ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ภูเก็ตจะได้แสดงศักยภาพที่มี นอกเหนือจากความสวยงามของหาดทราย ชายทะเล นอกจากนั้น เราจะพยายามเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยววิถีไทย ซึ่งทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เองก็พยายามที่จะประชาสัมพันธ์ว่า ประเทศไทยมีสิ่งที่สวยงามที่สุดคือ ความเป็นไทย ทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวเขามาเที่ยวเมืองไทยได้เที่ยวในหลากหลายมุมมองมากขึ้น ซึ่งก็จะตรงเป้าหมายของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ที่ต้องการสร้างการท่องเที่ยวที่เป็นมูลค่าเพิ่มมากขึ้น และในขณะเดียวกัน การที่มาจัดกีฬาเอเชียนบีชเกมส์ ในประเทศไทย อยากจะให้คนเริ่มมองประเทศไทยเป็น Sport Tourism ในระดับโลกมากยิ่งขึ้น เพราะว่าเรามีศักยภาพที่พร้อมในทุกด้านโดยเฉพาะในแง่ของคนไทยที่พร้อมจะเป็นเจ้าภาพที่ดี
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังได้กล่าวถึงการดูแลความปลอดภัยในช่วงของการจัดการแข่งขันด้วย ว่า ด้านความปลอดภัยได้มีการพูดคุยกันทั้งของฝ่ายตำรวจ และทุกทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะภาคประชาคมที่จะต้องร่วมกันเป็นเจ้าภาพเพื่อช่วยดูแลความปลอดภัยให้แก่นักกีฬา รวมถึงผู้ติดตามที่จะเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม จากที่ได้รับฟังในที่ประชุมทุกภาคส่วนตั้งใจที่จะจับมือร่วมกันในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่แขกบ้านแขกเมืองของเรา
ด้านนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การจัดแข่งขันกีฬาเอเชียนบีชเกมส์ ในครั้งนี้ ชาวจังหวัดภูเก็ต มีความภูมิใจที่จะเป็นหน้าเป็นตา เป็นตัวแทนให้แก่ประเทศไทย ต้อนรับนักกีฬา ณ วันนี้ด้านสถานที่พักเรามีความพร้อม มีโรงแรม กว่า 42 โรงแรมพร้อมที่จะให้การรองรับนักกีฬา และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ขณะที่ในเรื่องการขนส่ง มีความพร้อมแล้วเช่นเดียวกัน เพราะจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดท่องเที่ยวอยู่แล้ว ก็คงจะได้ใช้โอกาสนี้สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่คนในจังหวัดภูเก็ตในการดูแลนักท่องเที่ยว
ขณะที่ด้านอาสาสมัครได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ในภูเก็ต จัดนักศึกษามาดูแลเป็นผู้ประสานงานเจ้าหน้าที่ในด้านภาษาอังกฤษ รวมทั้งเป็นอาสาสมัครที่จะดูแลความเรียบร้อยของชายหาด สถานที่จัดการแข่งขัน และด้านพัฒนาเมือง ได้รับความร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการที่จะปรับปรุงเมือง หรือสร้างบรรยากาศให้เกิดขึ้นเพื่อที่จะทำให้เกิดบรรยากาศของการแข่งขันกีฬา
“ตนก็เชื่อมั่นว่าชาวภูเก็ตทุกคนจะได้ร่วมมือกัน เป็นผู้ที่ดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ช่วยกันเป็นผู้ที่บริการสินค้าต่างๆ ที่ราคายุติธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบ ที่สำคัญก็คือมีน้ำใจไมตรีให้แก่นักท่องเที่ยว เพราะเราเชื่อว่าเราจะใช้โอกาสนี้เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาสู่ประเทศไทย ให้ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยว และที่สำคัญที่สุดเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่อยากให้การแข่งขันกีฬาในครั้งนี้ส่งเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ชาวภูเก็ตขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด” นายนิสิต กล่าว