ชุมพร - ตำรวจทางหลวงชุมพร จับแก๊งขนใบกระท่อมได้ผู้ต้องหา 2 คน หลังเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนตามปกติ พบรถต้องสงสัยจึงเรียกตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบรถคันดังกล่าวซุกซ่อนใบกระท่อมจำนวนมาก จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง มูลค่ากว่า 3 แสน ส่งแหล่งท่องเที่ยวดังภาคใต้
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (3 ต.ค.) พ.ต.ท.เจริญพงษ์ ขันติโล สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 2 ชุมพร (สว.ส.ทล.4 กก.2 ชุมพร) ร.ต.อ.ภานุวัฒน์ โฉมยงค์ รอง สว.ส.ทล.4 กก.2 ชุมพร พร้อมด้วย ด.ต.ชาตรี บุญอยู่ ด.ต.วสันต์ ตราโต ด.ต.พูลศักดิ์ ศรีขวัญ ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 ชุมพร ควบคุมตัว นายอนุภาพ ศิริ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/2 หมู่ 6 ต.บ้านแหลม อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี และนายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี บ้านอยู่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้ต้องหาลักลอบขนพืชกระท่อม จำนวน 250 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 3 แสนบาท พร้อมรถยนต์กระบะของกลางมาสอบสวนขยายผลที่สถานีตำรวจทางหลวงชุมพร
ทั้งนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพร นำรถยนต์ตรวจการณ์ 2409 ออกลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบที่บริเวณถนนเอเชีย 41 หลัก กม.ที่ 27 ขาล่องใต้ ต.บ้านครน อ.สวี จ.ชุมพร พบรถยนต์กระบะยีห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ ตอนครึ่งสีเทา ทะเบียน บธ 3366 ชุมพร กระบะบรรทุกสิ่งของมาเต็ม และใช้ผ้าสแลนสีดำปิดทับไว้อย่างดี มีพฤติกรรมพิรุธน่าสงสัยจึงเรียกตรวจสอบ
ทราบคนขับชื่อคือ นายอนุภาพ ศิริ และมีนายเอ นั่งมาเบาะข้าง เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่กระบะหลัง และเอาผ้าสแลนสีดำที่ปิดอยู่ออก พบว่าด้านบนบรรทุกกระสอบปุ๋ยชีวภาพมาเต็มคัน เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ด้านล่างมีกระสอบปุ๋ยอีก จำนวน 14 กระสอบ ภายในบรรจุถุงพลาสติกสีดำใส่ใบกระท่อมอำพรางไว้ จำนวน 14 ถุง น้ำหนักรวม 250 กิโลกรัม จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไปสอบสวน
จากการสอบสวน นายอนุภาพ ศิริ คนขับทราบว่า ได้รับจ้างขนพืชกระท่อมทั้งหมดจาก “เจ๊ดา” ในราคาเที่ยวละ 7,000 บาท นำไปส่งให้แก่เอเยนต์รายหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ต ซึ่งจะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 1,500 บาท รวมมูลค่าของกลางพืชกระท่อมประมาณ 375,000 บาท นอกจากนั้น จากการตรวจสอบทะเบียนประวัติรถยนต์กระบะคันที่ใช้ขนพืชกระท่อมดังกล่าวพบว่า เมื่อปลายปี 2556 ที่ผ่านมา เคยถูกตำรวจ สภ.เมืองชุมพร จับกุมมาแล้ว ขณะกำลังลักลอบขนพืชกระท่อมจำนวนมากไปส่งในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ แต่ผู้ต้องหาคนละกลุ่มกันกับที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการสอบสวนขยายผลจับกุมผู้ว่าจ้าง และเครือข่ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
