ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กลุ่มผู้ประกอบอาชีพบนชายหาดป่าตอง กะตะ กะรน และราไวย์ กว่า 200 คน ได้รวมตัวกันไว้อาลัยแก่ นายจิรศักดิ์ แซ่ขู้ รองประธานชมรมร่มเตียงหาดป่าตอง ที่ผูกคอตาย เพราะเครียดที่ไม่ได้ประกอบอาชีพบนชายหาด พร้อมเขียนจดหมายลาตาย ขอให้ผู้ว่าฯ และ คสช.คืนพื้นที่ให้ผู้ประกอบการชายหาดก่อนที่จะมีคนคิดสั้นรายต่อไป
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (27 ก.ย.) ที่บริเวณชายหาดป่าตอง หน้าโรงแรมคาบาน่า กลุ่มผู้ประกอบอาชีพร่มเตียงหาดป่าตอง และกลุ่มอาชีพอื่นๆ บนชายหาดป่าตอง กลุ่มอาชีพหาดกะตะ กะรน รวมทั้งราไวย์ และไนหาน ประมาณ 200 คน ได้มารวมตัวกันเพื่อไว้อาลัย และทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ นายจิรศักดิ์ แซ่ขู้ หรือโกอู๊ด รองประธานชมรมร่มเตียงหาดป่าตอง ที่เสียชีวิตจากการผูกคอตาย เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2557 ที่ผ่านมา เนื่องจากเครียดที่ไม่สามารถประกอบอาชีพร่มเตียงบนชายหาดป่าตองได้
หลังจากที่ทางจังหวัดภูเก็ต เข้าไปจัดระเบียบชายหาดตามนโยบายของ คสช.ด้วยการไม่อนุญาตให้วางเตียงร่มบนชายหาดทุกหาดของภูเก็ต เพื่อทำให้ชายหาดสวยงาม
โดยทางกลุ่มผู้ประกอบการได้นำภาพถ่ายของนายจิรศักดิ์ มาวางไว้บนเก้าอี้ชายหาดในบริเวณที่นายจิรศักดิ์ ประกอบกิจการเตียงร่มก่อนที่จะถูกจัดระเบียบ เพื่อให้ทุกคนได้นำดอกไม้มาวางเพื่อแสดงความไว้อาลัยต่อการจากไปของ นายจิรศักดิ์ พร้อมทั้งมีพวงหรีดจากชมรมผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ชมรมร่มเตียงหาดป่าตอง กลุ่มอาชีพหาดกะตะ กะรน กลุ่มอาชีพหาดราไวย์ และไนหาน และได้นิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป มาสวดบังสุกุลเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ นายจิรศักดิ์ ซึ่งมีนางปราณี ภิรมย์ฤทธิ์ แม่ของนายจิรศักดิ์ รวมทั้งญาติพี่น้องมาร่วมไว้อาลัยในครั้งนี้ด้วย โดยศพของนายจิรศักดิ์ นั้นทางญาติจะบำเพ็ญกุศลตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป ที่วัดขจรสังสรรค์
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ได้มีการนำจดหมายที่บอกว่า นายจิรศักดิ์ ได้เขียนทิ้งไว้ที่บ้านแฟนมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนด้วย โดยจดหมายดังกล่าวได้เขียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และ คสช. ขอคืนพื้นที่ให้แก่ผู้ประกอบการร่มเตียงได้ประกอบอาชีพต่อไป เพราะเป็นวิถีชีวิตของทุกๆ คนที่ทำมาหากินเป็นเวลา 40 ปีเต็ม ขอให้ทบทวนมาตรการใหม่อย่าให้ต้องมีคนต้องมาเจ็บอีกเลย เกือบ 20 ชีวิตที่ครอบครัวผมต้องอาศัยอาชีพนี้ ทุกชีวิตต้องผกผันไปหมด ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอย่างไรดี
ขณะที่ นางปราณี ภิรมย์ฤทธิ์ กล่าวว่า หลังจากที่มีการจัดระเบียบชายหาดลูกชายก็เครียดมาตลอด เรื่องที่ไม่ได้ทำงาน ซึ่งตนก็ให้กำลังใจให้สู้ต่อไป โดยก่อนหน้านี้ลูกชายได้ชวนตน และญาติไปเปิดร้านขายอาหาร ซึ่งตนมองว่ากำไรที่ได้จากการเปิดร้านขายอาหารไม่น่าที่จะเพียงพอในการเลี้ยงสมาชิกในครอบครัวถึง 20 คน เพราะตลอดระยะเวลา 20 กว่าปี ครอบครัวของตนทุกคนประกอบอาชีพร่มเตียงที่หาดป่าตองมาโดยตลอด รายได้ที่เกิดขึ้นก็แบ่งกันในบรรดาลูกๆ ทั้ง 6 ครอบครัว ก็ได้แต่บอกให้ลูกๆ สู้ต่อไป และหวังว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องแก้ไขปัญหาให้
โดยก่อนวันที่ลูกจะผูกคอตายนั้น ได้ช่วยตนทำความสะอาดบ้าน ตัดแต่งต้นไม้ที่บ้าน และขอออกไปหาเพื่อน ยังบอกกับลูกอีกว่าให้ขับรถดีๆ นะ อย่าขับรถเร็ว มันอันตราย มารู้อีกทีว่าลูกเสียชีวิตแล้วก็ตอนที่ลูกชายมาบอกว่าให้ทำใจดีๆ โกอู๊ด ได้จากไปแล้ว ก็ตกใจไม่คิดว่าลูกจะคิดสั้นแบบนั้น
นางปราณี กล่าวต่อว่า สำหรับปัญหาที่ทำให้ลูกคิดสั้นน่าจะเกิดจากความเครียดเรื่องไม่สามารถทำงานที่บนชายหาดได้ เพราะเมื่อไม่ได้ทำงานบนชายหาดทำให้ครอบครัวขาดรายได้ ซึ่งทุกคนก็มีภาระที่ต้องใช้จ่ายทั้งนั้น และปัญหาครอบครัวที่ได้เลิกรากับภรรยา แต่ก็ไม่น่าจะใช่ประเด็นนี้ เพราะได้เลิกรากันมา 2 ปีแล้ว และระยะหลังๆ ก็สามารถไปรับส่งลูกไปโรงเรียนได้ คิดว่าน่าจะเป็นความเครียดจากที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ประกอบอาชีพอีก