พังงา - ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา วางแผนสกัดจับขบวนการขนชาวโรฮิงญา รวบโรฮิงญา 37 คน มุ่งหน้าสงขลา-สตูล พบคนขับมีฉี่ม่วง ขณะที่มีแหล่งข่าวได้ระบุว่า ขบวนการนี้มีมานานแล้ว โดยมีกลุ่มผู้มีอิทธิพล และเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการขนแรงงานเถื่อน
เมื่อเวลา 18.30 น.วานนี้ (24 ก.ย.) นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภานุพันธ์ โชติพินทุ สว.สส.สภ.ตะกั่วป่า นำกำลังเจ้าหน้าที่ อส. ชุดรักษาความสงบ ร.25 พัน 3 ค่ายวิภาวดีรังสิต จังหวัดสุราษฎร์ธานี และ ชรบ. เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 นาย ไล่ล่าจับกุมขบวนการขนชาวโรฮิงญาข้ามชาติได้จำนวน 2 คัน โดยให้ชาวโรฮิงญาซุกซ่อนตัวอยู่ภายในรถยี่ห้ออีซูซุ MU7 สีเทา หมายเลขทะเบียน กล 2166 สงขลา บรรทุกชาวโรฮิงญา 18 คน และรถยี่ห้ออีซูซุ MU7 สีบรอนซ์เงิน บรรทุกชาวโรฮิงญา 19 คน หมายเลขทะเบียน ฌฌ 7637 กทม. ทั้งหมดบรรทุกชาวโรฮิงญา จำนวน 37 คน ชาย 34 คน หญิง 3 คน ซึ่งสามารถไล่ล่าสกัดจับได้ที่บริเวณถนนเพชรเกษมสาย อ.ตะกั่วป่า-อ.คุระบุรี หมูที่ 4 ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มีนายเชวง สงค์เสน อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/1 ม.1 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ และนายสุริยา ยอดรัก อายุ 23 ปี 21/4 ถ.ตลาดใหม่ ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เป็นคนขับรถทั้ง 2 คัน นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้นำคนขับรถทั้ง 2 คน ไปตรวจหาสารเสพติด พบว่า นายสุริยา ยอดรัก มีฉี่ม่วง
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าฝ่ายปกครองทราบว่า ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีขบวนการขนชาวโรฮิงญามาเป็นเวลานาน จนกระทั่งมีสายรายงานมาว่า มีรถยนต์ จำนวน 2 คัน พร้อมชาวโรฮิงญาเป็นจำนวนมาก ได้ขับออกจากสวนยางพาราแห่งหนึ่งใน อ.คุระบุรี มุ่งหน้าไปทาง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงได้วางแผนเข้าจับกุม ซึ่งผู้ต้องหาให้การสารภาพว่า ตนและพวกมีหน้าที่ลักลอบนำพาชาวโรฮิงญาไปส่งที่ จ.สตูล และ จ.สงขลา ซึ่งทำมาแล้วหลายครั้ง โดยกลุ่มขบวนการนี้ได้นำชาวโรฮิงญามาทางเรือจากรัฐยะไข่ ประเทศพม่า ก่อนจะขึ้นเรือตามเกาะต่างๆ แล้วจึงเดินป่าเข้ามาซุกซ่อนตัวยังจุดพักที่สร้างหลบซ่อนเจ้าหน้าที่ และจะทำการเคลื่อนย้ายเป็นชุดๆ เพื่อส่งไปพักยังจังหวัดปลายทาง ก่อนจะส่งต่อไปยังประเทศปลายทางอีกครั้ง
เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดให้พนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วป่า แจ้งข้อกล่าวหา นำหรือพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต อุปการะหรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านการตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่ และเข้ามาอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต แก่คนไทยทั้ง 2 คน อย่างไรก็ตาม มีแหล่งข่าวระบุว่า ขบวนการนี้มีมานานแล้วโดยมีกลุ่มผู้มีอิทธิพล และเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการขนแรงงานเถื่อน ส่วนชาวโรฮิงญานั้นเจ้าหน้าที่จะทำการประสานไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองพังงา และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นของมนุษย์เพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อไป
