xs
xsm
sm
md
lg

“วาทกรรมแสบ” ณ โรงเรียนเลิกบุหรี่ / ถนอม ขุนเพ็ชร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
โดย...ถนอม  ขุนเพ็ชร์
 
“พอชวนเขาเลิกบุหรี่ เขาบอกว่าไหนๆ ก็ไม่มีใครอยู่ในโลกนี้นาน ผมจึงพูดไม่ออก หลายคนไม่ยอมเลิกโดยบอกว่าติดเป็นสันดานนิสัย ตื่นขึ้นมาก็สูบ ผมว่าเขาเสี่ยงจะติดน้ำกระท่อม ยาบ้า ที่กำลังมาแรงอยู่ในเวลานี้อีกด้วย”
 
คำบอกเล่าของ “สุริยา นาคอนันต์” นักเรียนชั้น ม.5/1 ผู้สามารถเลิกบุหรี่ได้เด็ดขาดตาม “โครงการสเปรย์สมุนไพรหญ้าดอกขาวลดการสูบบุหรี่จากโรงเรียนสู่ชุมชน” ของโรงเรียนปากพะยูนพิทยาคาร อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ซึ่งรับการสนับสนุนจาก “สำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม สสส.”
 
สุริยา เล่าว่า เริ่มสูบบุหรี่จากการที่เพื่อนชวน ด้วยความอยากลอง จนติด ต้องสูบเฉลี่ยวันละ 6 มวน โดยไม่ต้องซื้อ เพราะตัวเองเป็นคนเรียนเก่ง เพื่อนจึงพร้อมซื้อมาบรรณาการแลกกับการลอกการบ้าน
 
“ที่บ้านผมเขาห้ามสูบอยู่แล้วครับ ผมแอบสูบข้างนอกบ้าน ตอนออกมาเล่นฟุตบอล กลางทุ่งนา หรือข้างร้านขายบุหรี่ ในปั๊มน้ำมัน”
 
วันหนึ่งแม่เขาจับได้ตอนแอบสูบในห้องน้ำที่บ้าน ถูกตีหนัก จนมีความตั้งใจว่าจะเลิกให้ได้ จึงปรึกษากับรุ่นพี่สภานักเรียนที่รับผิดชอบโครงการพี่สภาช่วยน้องเลิกบุหรี่ ยอมใช้สเปรย์สมุนไพรหญ้าดอกขาวเลิกบุหรี่ ควบคู่ไปกับสมุดบันทึกพฤติกรรมในการเลิกบุหรี่
 
“ฉีดตอนแรกรู้สึกฝาดๆ ที่คอ พอใช้ไปจะรู้สึกว่าสูบไม่ค่อยเข้า รสชาติบุหรี่แตกต่างไปเลย ไม่อร่อย เฝื่อนปากจนทิ้งไปเลย”
 
ผ่านไป 2 เดือนครึ่ง กับยา 4 ขวด ก็สามารถเลิกบุหรี่ โดยยอมรับว่าความตั้งใจจริงในการเลิกและการผ่าน 2 เดือนนรกมาได้มาจากพ่อแม่ โดยเฉพาะแม่ที่คอยให้กำลังใจตลอด
 
“พ่อผมก็เคยสูบบุหรี่ เขากำลังจะเลิกโดยใช้สเปรย์ตัวเดียวกับผม”
 

 
ในช่วงวิกฤตแห่งการเอาชนะ นอกจากสเปรย์หญ้าดอกขาว ซึ่งเป็นนวัตกรรมเลิกบุหรี่ของโรงเรียนปากพะยูนพิทยาคารแล้ว สุริยา เล่าว่า จำเป็นต้องหากิจกรรมอย่างอื่นมาทำด้วย เช่น เล่นฟุตบอลทุกวัน เล่นตะกร้อ ร้องเพลง ทำการบ้าน เรียนให้หนักขึ้น หรือกินของเปรี้ยวอย่างเช่นมะม่วง
 
“กลุ่มที่เคยสูบด้วยกันจะบอกว่า ถ้าไม่สูบอีกก็ไม่ใช่เพื่อนกันแล้ว บางทีเราต้องสูบไปกับเพื่อนก่อน แล้วค่อยถอยออกมาจากการเข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มดังกล่าว เราก็อ้างว่าแม่ไม่ให้ไปบ้างถ้าสูบ พ่อแม่จะไม่ให้เข้าบ้าน เพราะมีกลิ่นเหม็นตามเนื้อตัว เมื่อมีกลิ่นตัวออก เราก็ชวนเขาเลิก แต่เขาบอกว่าไหนๆ ก็ไม่มีใครอยู่ในโลกนี้นาน”
 
เขาเล่าว่า หลังเลิกบุหรี่รู้สึกว่าผลการเรียนดีขึ้น สมองปลอดโปร่ง ทำกิจกรรมอะไรได้อย่างคล่องแคล่วกว่าเดิม จากเกรด 3.12 เพิ่มเป็น 3.62  สามารถสานความฝันการสอบเข้าวิศวกรรมศาสตร์ 
 
“วันนี้ผมภูมิใจมากๆ ที่เลิกได้ พ่อแม่ก็ดีใจกับผมที่เลิกได้ แม่บอกว่าดีมากลูกบ่าวที่เลิกได้ ให้รางวัลโดยชวนไปเที่ยวสวนสัตว์กัน”
 
“ยุทธนา ศรีวิโรจน์” ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนปากพะยูนพิทยาคาร ผู้รับผิดชอบโครงการสเปรย์สมุนไพรลดการสูบบุหรี่จากโรงเรียนสู่ชุมชน เล่าว่า ปัญหาบุหรี่กับโรงเรียนมัธยมเป็นของคู่กัน เพราะเป็นช่วงวัยที่เด็กมักถูกชักจูงให้สูบบุหรี่ กรณีโรงเรียนปากพะยูนพิทยาคารพบเด็กสูบบุหรี่ราว 5% จากเด็ก 600 กว่าคน ขณะเดียวกัน พบนักสูบหน้าใหม่เพิ่มได้อีก
 
“ผมสอนวิชาสุขศึกษา ให้ความรู้เรื่องนี้อยู่ แต่จะมีบางกลุ่มที่มีปัญหาสูบบุหรี่ โดยเฉพาะเด็กที่ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ เหตุเพราะพ่อแม่ต้องออกไปทำงาน อีกกลุ่มพ่อแม่สูบบุหรี่ ลูกเห็นก็ลองสูบเล่นบ้างจนติด ซึ่งการสูบบุหรี่ยังนำไปสู่ยาเสพติดชนิดอื่น”
 
ยุทธนา เล่าว่า ช่วงที่ผ่านมา ทางโรงเรียนใช้ระเบียบลงไปจัดการนักเรียนสูบบุหรี่ โดยหักคะแนนความประพฤตินำมาลงโทษ มีแกนนำสภานักเรียน ซึ่งมาจากการเลือกตัวแทนนักเรียนมาทำงาน ทำกิจกรรมเนื่องในโอกาสต่างๆ เช่น วันงดสูบบุหรี่โลก กีฬาต้านยาเสพติด ฯลฯ
 
กระทั่งภาคการศึกษาที่ผ่านมา ได้ให้ความสำคัญมากขึ้นโดย นายปรีชา มากมณี ผู้อำนวยการโรงเรียนบรรจุเรื่องนี้เป็นพันธกิจของโรงเรียน มุ่งมั่นให้เป็นสถานศึกษาปลอดยาเสพติด จึงมีการทำงานอย่างบูรณาการ ทั้งกิจกรรม และหลักสูตรการเรียนการสอน
 
“มีการใช้สภานักเรียนเป็นแกนนำรณรงค์ทำกิจกรรมเกี่ยวกับการเลิกบุหรี่หลายๆ กิจกรรมเหมือนเดิม แต่ที่สำคัญคือ จัดโครงงานช่วยกันลดควันบุหรี่ โครงการชนะเลิศคือ สเปรย์สมุนไพร ซึ่งมี น.ส.กมลรัตน์ จิตพรหม ซึ่งมีบิดาเป็นหมอพื้นบ้านจึง ได้องค์ความรู้มาจากพ่อ ซึ่งมีภูมิปัญญาสมุนไพรมาใช้”
 

 
ยุทธนา เล่าว่า มีการขยายความคิดในสภานักเรียนทำต่ออย่างเป็นรูปธรรม ใช้วิธีที่เรียกว่า “พี่สภาฯ อาสาช่วยน้องเลิกบุหรี่” ออกแบบเครื่องมือทำงาน เช่น สมุดบันทึกการเลิกบุหรี่โดยใช้สเปรย์ ใช้วิธีการสภานักเรียน จับคู่คนที่อยากเลิกบุหรี่ชนิดคนต่อคน การจับคู่บัดดี้ระหว่างกรรมการสภานักเรียน กับคนที่ต้องการเลิกบุหรี่ ให้สภานักเรียนออกไปสืบเสาะหาตามกลุ่มเพื่อนที่ติดบุหรี่มาร่วมเลิกบุหรี่ คอยช่วยเหลือเพื่อนที่มีความตั้งใจเลิกบุหรี่ในทุกรูปแบบ ทั้งติดตาม ตรวจสอบ ให้กำลังใจ
 
“เราให้คนติดบุหรี่ใช้สเปรย์ หากหยุดสูบได้ 1-2 เดือน พบว่าความอยากบุหรี่จะลดลง จนในระดับที่เห็นคนอื่นก็จะไม่อยากสูบเหมือนที่ผ่านมา แต่พบว่าความตั้งใจจริงที่จะเลิกสูบจะเป็นส่วนสำคัญ สเปรย์จะเป็นตัวช่วย ผู้ปกครอง หรือร้านขายบุหรี่เองก็ต้องให้ความร่วมมือ สำหรับในโรงเรียนมีความตั้งใจชัดเจนมาก ครูที่นี่ไม่สูบบุหรี่ 100% ภาพรวมเราทำมาก่อนแล้ว พอมาโครงการนี้ก็เท่ากับเราทำต่อเนื่อง และจะทำต่อไปเรื่อยๆ”
 
หลังเกิดผลในโรงเรียนกับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง พบว่า เป้าหมายนักเรียน 18 คน สามารถเลิกได้ 10 คน จึงได้ขยายผลสู่ชุมชน โดยการออกไปร่วมกิจกรรมในตลาดนัด หรือในงานของเขตการศึกษา มีจัดบูทแนะนำสมุนไพรเลิกบุหรี่ พบการตอบรับที่ดี แต่ยังไม่สามารถประเมินความสำเร็จในระดับชุมชน เพราะยากในการควบคุม
 
สำหรับการเปิดเพจสเปรย์เลิกบุหรี่ในอินเทอร์เน็ต โดยจำหน่ายขวดละ 80 บาท พบว่า มีคำสั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ตจากหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย จนขณะนี้ไม่สามารถผลิตทันความต้องการ รายได้จากการขายสมุนไพรได้นำมาทำกิจกรรมในการเลิกบุหรี่ต่อไป
 
“สวัสดิ์ จิตพรหม” หมอพื้นบ้านที่สืบทอดตำราหมอพื้นบ้านจากบรรพบุรุษ และเป็นนักศึกษาแพทย์แผนไทยของมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ซึ่งเป็นปราชญ์ชาวบ้านที่ช่วยคิดค้นสมุนไพรเลิกบุหรี่ เล่าว่า หญ้าดอกขาว ซึ่งเป็นต้นหญ้าชนิดหนึ่งพบได้ทั่วไปในท้องถิ่น เป็นส่วนผสมสำคัญของสมุนไพรเลิกบุหรี่ในสูตรนี้ 
 
สเปรย์สมุนไพรหญ้าดอกขาว เกิดจากการสังเกตหลายอย่าง จึงมาคิดสูตรยาของตัวเอง แล้วมาใช้ด้วยตัวเองก่อน ซึ่งตอนแรกเป็นการต้มแล้วเอาดื่ม มีส่วนผสมจากหญ้าดอกขาวอย่างเดียว ได้ผลน้อย จึงได้ทดลองผสมตัวอื่น เช่น ชะเอมเทศ กานพลู เปปเปอร์มินต์ แก่นคูน มาต้มรวมกัน ต่อมาพบว่าการต้มกินได้ผลน้อยกว่าสเปรย์ฉีดพ่น เพราะทำให้ติดอยู่ที่ลิ้นนานกว่า
 

 
สำหรับการใช้งานสเปรย์ให้เอามาพ่นที่ลิ้น ที่โคนฟัน นอกจากสะดวกแล้ว ยังมีประโยชน์ทำให้ไม่รู้รสชาติของบุหรี่ และเหล้า ทำให้ชาในปาก และเคลือบอยู่นาน การไปสูบบุหรี่ก็ทำให้จืดไม่มีรสชาติ ขณะที่ตัวชะเอมเทศ ช่วยคลายเครียด คลายความกังวล ทำให้สบาย ชุ่มคอ บำรุงปอด และไม่มีผลข้างเคียง
 
หลังพ่นสเปรย์แล้วตัวยาจะอยู่ได้นานราวครึ่งชั่วโมง ถ้าอยากสูบบุหรี่ก็พ่นซ้ำได้ จนหยุดสูบ และเมื่อคนที่สามารถเลิกไปแล้วกลับมาได้กลิ่นบุหรี่ จะไม่อยากสูบอีก จะเกิดอาการแพ้กลิ่น หรือเหม็นบุหรี่
 
ส่วนการใช้ได้ผลต้องใช้ยาประมาณ 4 ขวด ในระยะเวลาต่อเนื่องไม่เกิน 3 เดือน ใช้พ่นทุกครั้งที่อยากสูบบุหรี่ พบว่าคนที่ตั้งใจจริงอาจใช้เพียงขวดเดียวก็ได้ผล แต่หากไม่ตั้งใจจริง เลิกได้แล้วอาจกลับมาสูบได้อีก โดยเฉพาะถ้ายังสมาคมอยู่กับคนกลุ่มเดิมที่ยังสูบอยู่
 
“สูตรยานี้เราได้ไปขึ้นทะเบียนยาที่ สสจ.พัทลุง แล้ว แต่เขาแนะให้มีสถานที่ผลิต มีการสร้างโรงเรือนตามระเบียบกฎหมาย ซึ่งต้องลงทุนสูง เราก็ยังไม่พร้อม แต่เขาอนุญาตให้ทำไปก่อนเลย เพราะนี่เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม” สวัสดิ์ เล่า
 
“น.ส.กมลรัตน์ จิตพรหม” และตัวแทนสภานักเรียนช่วยกันเล่าว่า สภานักเรียนโรงเรียนปากพะยูนพิทยาคาร มีบทบาทหลายอย่าง กรณีโครงการนี้พี่สภานักเรียนไปหาน้อง หรือเพื่อนที่มีปัญหาติดบุหรี่ ให้มาใช้สเปรย์ ให้ทุกคนมารวมตัวกันเพื่อฉีดในช่วงพักระหว่างวันที่โรงเรียน นอกจากใช้ยาสมุนไพรก็เป็นการติดตามให้กำลังใจ การเลือกคนมาร่วมโครงการดูจากกลุ่มเสียงที่มีความตั้งใจจะเลิกจริงๆ
 
“โครงการเลิกบุหรี่ก็ทำกันมาก่อนแล้วหลายรุ่น ทำให้ผู้สูบน้อยลงกว่าเดิม เห็นจากห้องน้ำชายมีก้นบุหรี่ลดลง จุดเสี่ยงจุดอับไม่พบก้นบุหรี่ ที่จริงปีก่อนมีการคิดลูกอมเลิกบุหรี่มาก่อน แต่หลายแห่งก็ทำแบบนี้เราก็เลยมาทำสเปรย์”
 
การขยายผลสภานักเรียนได้ไปเปิดบูทแนะนำสมุนไพรเลิกบุหรี่ที่ถนนคนเดินของปากพะยูน การนำไปแจกได้รับความสนใจ ไม่เพียงพอต่อความต้องการ
 
“ทางสภานักเรียน เราก็มีแนวคิดอื่น อย่างเช่น การทำธรรมนูญโรงเรียนในเรื่องการไม่สูบบุหรี่”
 
นายปรีชา มากมณี ผอ.โรงเรียนปากพะยูนพิทยาคาร ยืนยันว่า เพื่อให้เป็นแบบอย่าง โรงเรียนแห่งนี้ไม่มีครูสูบบุหรี่ 100% ยังมีโครงการสร้างภูมิคุ้มกันหลายอย่าง มีที่ชัดเจนคือโครงการพี่สภาอาสาพาน้องเลิกบุหรี่ โดยใช้สเปรย์ และสภาอาสาเลิกบุหรี่จากโรงเรียนสู่ชุมชน ทุกกิจกรรมจะทำในโรงเรียน และกับชุมชนอย่างต่อเนื่อง ให้ความสำคัญโดยถือว่ากิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมหลักของโรงเรียน
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น