ชุมพร - คนร้ายใช้มีดพร้าและผ้าขาวม้าคลุมหน้า บุกปล้นร้านเซเว่น ที่ท่าแซะ จ.ชุมพร กวาดเงินสดไปได้แค่ 1 พันบาท ก่อนขึ้นรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนจอดรออยู่หน้าร้านหลบหนีไปในความมืดอย่างลอยนวล
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (24 ก.ย.) พ.ต.อ.ภาศกร ณ พิกุล ผกก.สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พ.ต.ท.วิชัย เพชรกันยา รอง ผกก.สส. สภ.ท่าแซะ พ.ต.ท.อารมณ์ น้ำใจสุข สว.สส.พร้อมกำลังชุดสายสืบ ลงพื้นที่ตรวจสอบหาหลักฐานที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น บริเวณสี่แยกท่าข้าม หมู่ 6 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร หลังจากเมื่อช่วงเวลา 03.50 น. ของกลางดึกที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายบุกเข้าปล้นทรัพย์ที่ร้ายสะดวกซื้อแห่งนี้แล้วหลบหนีไปอย่างลอยนวล
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตอนเกิดเหตุเป็นช่วงที่ปลอดคน พบว่า มีคนร้าย จำนวน 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ หรือน้ำเงิน ไปจอดที่ริมถนนใกล้กับร้านเซเวนอีเลฟเว่น โดยคนขับนุ่งกางเกงยีนส์ ไม่สวมรองเท้า ใส่เสื้อแจ็กเกตแขนยาวสีดำ ด้านหลังเสื้อมีข้อความเขียนว่า “ชุมพล จุลใส (ส.ส.ลูกหมี)” โดยคนร้ายได้ดึงเอาเสื้อแจ็กเกตที่ใส่มาคลุมปิดศีรษะ และใบหน้าไว้เพื่อไม่ให้กล้องวงจรปิดจับใบหน้าได้ แล้ลงจากรถจักรยานยนต์เดินไปยืนคุมเชิงอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อดังกล่าว
ส่วนคนซ้อนท้ายแต่งกายใส่เสื้อยืดคอกลมสีดำแขนสั้นแถบแดง นุ่งกางเกงขาสั้นสามส่วนลายพรางทหาร ใส่รองเท้าแตะ ใช้ผ้าข้าวม้าลายหมากรุกปิดคลุมศีรษะ และใบหน้าคล้ายนักรบแถบตะวันออกกลาง ในมือถือมีดพร้าด้ามไม้ยาวประมาณ 1 เมตร บุกเข้าไปในร้าน แล้วบังคับให้พนักงานหญิงซึ่งมีอยู่จำนวน 2 คน ให้อยู่ในความสงบ แล้วคนร้ายได้เข้าไปเปิดลิ้นชักในเคาน์เตอร์หยิบเอาเงินที่มีอยู่ในลิ้นชักประมาณ 1,000 บาท
จากนั้นคนร้ายได้เดินออกมาจากเคาน์เตอร์ แล้วเอามีดขู่จะฟันพนักงานหญิงพร้อมกับพูดขู่ตะคอกเป็นสำเนียงใต้ว่า “มีเงินอีกไหม” แล้วบังคับพาพนักงานหญิงคนดังกล่าวเข้าไปในเคาน์เตอร์อีกรอบ ขณะที่พนักงานหญิงคนดังกล่าวอยู่ในอาการหวาดผวาตัวสั่นด้วยความกลัวบอกแก่คนร้ายว่า เงินมีจำนวนเท่านั้นจริงๆ ทำให้คนร้ายตัดสินใจปล่อยตัวแล้วรีบวิ่งออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนอีกคนยืนคุมเชิงรออยู่หน้าประตูร้าน แล้วพากันวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไปในความมืดอย่างลอยนวล
หลังจากที่ พ.ต.อ.ภาศกร ณ พิกุล ผกก.สภ.ท่าแซ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และรวบรวมหลักฐานอื่นๆ จากที่เกิดเหตุ เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายทั้ง 2 คน อายุประมาณ 20-25 ปี น่าจะเป็นคนในหมู่บ้าน เนื่องจากรู้เวลาช่วงที่ไม่มีคนในร้าน และมุมกล้องวงจรปิดของร้านค้าข้างเคียงได้เป็นอย่างดี พร้อมกับได้กำชับให้ตำรวจทุกนายออกไล่ล่าติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุดต่อไป
