ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “พยัคฆ์ไพร” รุกฆาต เตรียมแจ้งความ 7 เจ้าหน้าที่รัฐออกเอกสารสิทธิหาดฟรีดอม จ.ภูเก็ต พร้อมรวบรวมข้อมูลแจ้งความอีก 3 แปลง รุกป่าเขารวก-เขาเมือง เผยแต่ละแปลงมีเนื้อที่จำนวนมาก
นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปรามสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าไม้ ในฐานะหัวหน้าหน่วยพยัคฆ์ไพร กล่าวถึงการเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องกรณีการออกเอกสารสิทธิที่ดินในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ว่า ขณะนี้ทีม “พยัคฆ์ไพร” ได้ลงมาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน จเรตำรวจ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานแจ้งความดำเนินคดี 2 เรื่อง คือ ปัญหาการบุกรุกที่ดินในเขตป่าเขารวก-เขาเมือง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และกรณีที่ดินหาดฟรีดอม ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งคิดว่าทั้ง 2 ส่วนจะสามารถแจ้งความได้ภายใน 1-2 วันนี้ ซึ่งจะเป็นการดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อผู้ที่เข้าไปบุกรุกครอบครองที่ดินของรัฐ การเอาผิดนั้นจะต้องดำเนินการตามกฎหมายทุกคนที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และดำเนินการให้มีการออกเอกสารสิทธิในที่ดินทั้ง 2 ส่วน
ซึ่งในส่วนของที่ดินหาดฟรีดอมนั้น ทางกรมป่าไม้ได้เสนอไปยังกรมที่ดินตั้งแต่ปี 2555 ให้เพิกถอนที่ดินแปลงกล่าว ซึ่งการออกเอกสารสิทธิในที่ดินแปลงนี้มีการทำกันเป็นขบวนการ ไปกันพื้นที่ออกจากเขตป่าโซนซี ซึ่งการกันเขตป่าไม่ใช่ใครก็จะกันออกได้ จะต้องใช้กฎกระทรวงในการดำเนินการ ซึ่งเรื่องของที่ดินแปลงนี้ไม่ควรจะจบเฉพาะการเพิกถอนเท่านั้น แต่จะต้องดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐด้วยในคำสั่งที่ 69 ของ คสช.ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เบื้องต้นจะเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการออกเอกสารสิทธิที่ดินดังกล่าว จำนวน 7 คน ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ 2 คน และเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดิน จำนวน 5 คน ซึ่งถ้ารวบเอกสารเสร็จก็อาจจะแจ้งความภายในวันนี้ (9 ก.ย.) แต่ถ้ายังไม่เสร็จก็จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีในวันพรุ่งนี้ (10 ก.ย.) ซึ่งเรื่องเหล่านี้ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะต้องรวบรวบพยานหลักฐานให้ชัดเจน แต่ขณะนี้ในส่วนของการรวบรวมพยานหลักฐานมีความคืบหน้าไปมากแล้ว
ส่วนกรณีการบุกรุกออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ป่าเขารวก-เขาเมือง ก็มีเจ้าหน้าที่อีกชุดกำลังดำเนินการ ซึ่งเป็นการขอออกเอกสารสิทธิโดยใช้หลักฐาน ส.ค.1 การตรวจสอบในครั้งนี้จะดำเนินการตรวจแปลงใหญ่ๆ 2-3 แปลง ซึ่งก็ได้ข้อมูลจากเครือญาติเจ้าของ ส.ค.1 ว่า ที่ผ่านมายังไม่เคยมี ส.ค.แปลงใหญ่ขนาดเป็นร้อยไร่เลย จึงเชื่อว่า ส.ค.ดังกล่าวน่าจะเป็นเอกสารสารเท็จขึ้นมา ซึ่งในส่วนนี้ก็จะต้องมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้องเช่นกัน
