ตรัง - เกิดเหตุคลื่นลมแรงพัดร่าง 2 หนุ่มใหญ่จมทะเลเสียชีวิต โดยรายแรกเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ส่วนรายหลังเป็นชาวบ้านในพื้นที่ อ.สิเกา ขณะออกไปจับสัตว์น้ำเพียงลำพัง
วันนี้ (28 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.สิเกา จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุคนจมน้ำ 2 จุด คือ บริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ต.ไม้ฝาด และบริเวณบ้านพรุจูด ต.บ่อหิน หลังรับแจ้งจึงรายให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลสถาน อ.สิเกา
โดยรายแรกมีคนหายที่บริเวณพื้นที่ ม.5 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา ตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันนี้ จึงได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร และประชาชนช่วยกันค้นหานานกว่า 3 ชม. จึงพบร่าง นายอาคม ส่งสุวรรณ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 ม.6 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ซึ่งได้ออกไปวางอวนจับสัตว์น้ำ แต่ถูกคลื่นลมแรงซัดจมน้ำหายไปจนเสียชีวิต
ทั้งนี้ นายโยธิน ส่งสุวรรณ อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นน้องชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า พี่ชายตนทำงานที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม มานับ 10 ปีแล้ว ก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนคงต้องรอทางแพทย์โรงพยาบาลสิเกา ยืนยันอีกครั้ง ส่วนรายที่ 2 มีคนหายที่บริเวณพื้นที่ ม.2 บ้านพรุจูด ต.บ่อหิน อ.สิเกา ตั้งแต่ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ จึงได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร และประชาชนช่วยกันค้นหานานกว่า 24 ชม. จึงพบร่าง นายวิรัตน์ หรือพุด ขุนโยธี อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145/2 ม.2 ต.บ่อหิน อ.สิเกา จ.ตรัง จมน้ำในลักษณะคว่ำหน้าใต้น้ำลึกประมาณ 30 เซนติเมตร
ส่วนใบหน้า ปาก และหางคิ้ว มีแผลฉีกขาดลักษณะคล้ายโดนสัตว์น้ำกัดกิน และกำลังจะลอยขึ้นเหนือน้ำ เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำร่างขึ้นมายังดรงพยาบาลสิเกา เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป นายอุทัย ทองบัว ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายรักษาความสงบหมู่ที่ 2 ต.บ่อหิน กล่าวว่า นายวิรัตน์ ผู้ตายมีอาชีพรับจ้าง และมีอาชีพเสริมคือ ดักสัตว์น้ำขาย แต่มีโรคประจำตัว ทำให้มีอาการหน้ามืด และเป็นลมอยู่ประจำ โดยก่อนหน้านี้ เคยเป็นลมขณะจับสัตว์น้ำมาก่อน แต่มีคนช่วยเหลือทัน ส่วนครั้งนี้อาจจะเป็นลมแล้วพลัดตกลงไปในทะเลขณะคลื่นลมแรง จึงจนน้ำหายไปจนเสียชีวิตดังกล่าว