ตรัง - โรงจำนำเทศบาลนครตรัง แถลงยืนยันไม่มีทองคำปลอม เตรียมฟ้องกลับหลังทำให้เสียชื่อเสียง หลังตรวจสอบเอกสารย้อนหลังไม่พบเคยนำทองคำเส้นที่เป็นข่าวมาจำนำไว้แต่อย่างใด ย้ำตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ดำเนินการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ด้านแม่ค้าสำนึกผิดโร่ออกขอโทษ
จากกรณีที่ นางสุนันทา วงศ์วิวัฒน์ อายุ 50 ปี เจ้าของร้านขายของฝากที่ท่าอากาศยานตรัง อยู่บ้านเลขที่ 15/6 ถนนพัทลุง ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สุนันท์ สังข์สวัสดิ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองตรัง เพื่อดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่สถานธนานุบาล (โรงจำนำ) เทศบาลนครตรัง หลังจากที่ได้นำสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท จำนวน 1 เส้น ไปจำนำ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมรับจำนำ และหาว่าเป็นทองคำปลอม ทั้งที่ตนเคนก็เคยนำสร้อยคอทองคำเส้นดังกล่าวไปจำนำกับโรงจำนำเทศบาลนครตรัง เมื่อเดือนมีนาคม 2557 และได้เงินมาถึง 32,000 บาทนั้น
ล่าสุด วันนี้ (27 ส.ค.) นายจิรศักดิ์ ควนจันทร์ เลขานุการ นายกเทศมนตรีนครตรัง พร้อมด้วย นายพิชัยยศ เล้นสิ้น ผู้จัดการโรงจำนำเทศบาลนครตรัง และเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดย นายพิชัยยศ กล่าวชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม นางสุนันทา ได้นำสร้อยคอทองคำ หนัก 3 บาท มาจำนำที่โรงจำนำ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า เป็นทองปลอม จึงส่งคืนแก่นางสุนันทา ต่อมา นางสุนันทา ได้ยืนยันว่า เคยนำสร้อยคอทองคำเส้นนี้มาจำนำครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อเดือนมีนาคม 2557 ในราคา 32,000 บาท และไถ่ถอนออกมา ก่อนจะนำไปเก็บไว้ที่บ้านโดยไม่ได้นำออกไปไหน จึงคิดว่าน่าจะได้รับการสับเปลี่ยนทองตอนที่ไถ่ถอนออกจากโรงจำนำ จนนำไปสู่การแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการตรวจสอบฐานข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ และบัญชีการรับจำนำ พบว่า ข้อมูลความจริง คือ นางสุนันทา ได้นำสร้อยคอทองคำมาจำนำไว้เมื่อเดือนมกราคม ในราคา 27,000 บาท ซึ่งเป็นสร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาท เพียงเส้นเดียว และได้ไถ่ถอนออกไปเมื่อเดือนเมษายน ส่วนสร้อยคอทองคำ หนัก 3 บาท ที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น นางสุนันทา ไม่เคยมีประวัตินำมาจำนำที่โรงจำนำ เทศบาลนครตรัง แต่อย่างใด และที่ นางสุนันทา ได้อ้างว่า เคยนำสร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาท และ 3 บาท ไปจำนำพร้อมกัน 2 เส้น ในราคา 32,000 บาท ก็ไม่เป็นความจริงเพราะหลักฐานทั้งหมดจากตั๋วรับจำนำตรวจไม่พบแต่อย่างใด
ทั้งนี้ หลังจากเกิดเรื่องโรงจำนำเทศบาลนครตรัง ได้ติดต่อพูดคุยกับ นางสุนันทา พร้อมนำประวัติการจำนำทั้งหมดไปชี้แจง ซึ่ง นางสุนันทา ก็ยอมรับในหลักฐาน และได้กล่าวขอโทษต่อเจ้าหน้าที่โรงจำนำ อีกทั้งยังต้องการให้ชี้แจงแก่สื่อมวลชนแทนตนเองอีกด้วย อีกทั้งโรงจำนำ ได้มีการเก็บรักษาทรัพย์สินของประชาชนที่นำมาจำนำเป็นอย่างดี โดยมีกระบวนการเก็บที่ชัดเจน มีเลขที่กำกับ มีรายละเอียดของทรัพย์ วันเวลา บรรจุในซองสุญญากาศ และมีการสุ่มตรวจทุกสัปดาห์ และตรวจนับทุกชิ้น ปีละ 2 ครั้ง ดังนั้น ประชาชนที่มาใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่า โรงจำนำเทศบาลนครตรัง ที่เปิดมาแล้ว 51 ปี ได้ดูแลทรัพย์สินอย่างดี ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต
ด้าน นายจิรศักดิ์ ควนจันทร์ เลขานุการ นายกเทศมนตรีนครตรัง กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นได้สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้แก่โรงจำนำเป็นอย่างมาก ตนและผู้บริหารจึงมีความเห็นว่า จะมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อ นางสุนันทา ในข้อหาหมิ่นประมาท และพร้อมต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป