นราฯ เตรียมจัดตั้งศูนย์ทางอิสลามวิจัย ปรับพื้นฐาน นศ.ก่อนไปเรียนที่อียิปต์

นราธิวาส - มหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร อียิปต์ ร่วมมือ ม.นราธิวาสราชนครินทร์ เปิดศูนย์อาหรับเพื่อปรับพื้นฐานให้แก่นักศึกษาก่อนไปเรียนอียิปต์

วันนี้ (21 ส.ค.) ที่ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ดร.อัสบาส ซูมัน รองผู้นำสูงสุดทางศาสนาอิสลามของประเทศอียิปต์ พร้อมด้วย นายพีรศักย จันทวรินทร์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ พร้อมคณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร ได้ร่วมพบปะหารือร่วมกับผู้ช่วยศาสตรจารย์ ดร.จงรัก พลาศัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ และคณะผู้บริหารสถาบันอิสลามและอาหรับศึกษา มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์

ถึงแนวทางการเปิดศูนย์ภาษาอาหรับ และจัดตั้งศูนย์ทางอิสลามวิจัย เพื่อเป็นสถานที่ในการเรียนภาษาอาหรับก่อนที่นักศึกษาจะเดินทางไปเรียนที่ประเทศอียิปต์ ถือเป็นการปรับพื้นฐานขั้นต้นสำหรับการเริ่มต้นการศึกษา และก่อนที่จะมีการหารือ นักศึกษาจากประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่มาศึกษาที่มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ได้อ่านคัมภีร์อัลกรุอานเพื่อความสิริมงคลก่อนที่จะมีการหารือข้อตกลงต่างๆ

ด้าน นายพีรศักย จันทวรินทร์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร กล่าวว่า ขณะนี้มีนักศึกษาไทยที่เรียนอยู่ในประเทศอียิปต์จำนวนกว่า 2,500 คน ซึ่งส่วนใหญ่มุ่งไปศึกษาต่อด้านศาสนาเพื่อให้มีความรู้มากยิ่งขึ้น โดยส่วนหนึ่งที่ไปศึกษาต่อมักจะประสบปัญหาด้านภาษาที่อาจจะต้องใช้เวลาในการศึกษาเรียนรู้ และปรับตัว 5-6 ปี ทำให้เสียเวลาในการเข้าศึกษาต่อ การร่วมหารือในครั้งนี้ถือเป็นการวางพื้นฐาน และร่นระยะเวลาในการเรียนภาษาให้แก่นักศึกษาที่จะเดินทางไปศึกษาที่อิยิปต์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร กล่าวอีกด้วยว่า ปัญหาความไม่สงบในประเทศอียิปต์ ถึงแม้จะยังคงเกิดขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มนักศึกษาไทย ปัจจุบันยังคงมีนักศึกษาไทยโดยเฉพาะจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เดินทางไปศึกษาอย่างต่อเนื่อง

ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จงรัก พลาศัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า การร่วมมือระหว่าง 2 มหาวิทยาลัยครั้งนี้เป็นเรื่องที่ดี เพราะจะเป็นการเรียนการสอนเพื่อปรับภาษาสำหรับนักเรียนที่ต้องการไปศึกษาที่อียิปต์ อีกทั้งจะมีคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นเจ้าของภาษามาสอนให้แก่เยาวชนในพื้นที่ด้วย