ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ทหาร ตำรวจ และพลเรือน เข้าเจรจากับเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน ขณะพักรับประทานอาหารที่ปั๊มน้ำมันทีพี สาขารัตภูมิ ขอให้ยุติการเดิน ถกเครียดครึ่ง ชม. เครือข่ายฯ ยืนยันตามเจตนารมณ์เดิมเดินต่อ ด้าน เสนาธิการ มทบ.42 สั่งรถบัสออกจากค่ายเสนาณรงค์แล้ว หากฝืนเดินต่อรวบแน่นอน
เมื่อ 12.00 น.วันนี้ (20 ส.ค.) คณะเดินเท้าเครือข่าย “ขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน” ซึ่งออกเดินทางเป็นวันที่ 2 จาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สู่กรุงเทพฯ พักรับประทานอาหารที่ปั๊มน้ำมัน ทีพี สาขารัตภูมิ ของบริษัท ทีแอนด์ซี ปิโตรเรียม จำกัด ม.13 บ้านหนองข้อง เขตเทศบาลตำบลกำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ในช่วงเวลาเดียวกันปรากฏว่า มีเจ้าหน้าที่ นำโดย พ.อ.วรพน วรพันธ์ เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 42 (มทบ.42) พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงศ์พันธ์ จันทร์อาภา ผกก.สภ.รัตภูมิ นำคณะเจ้าหน้าที่เข้าเจรจากับคณะเดินเท้า มีทั้ง ทหาร ตำรวจ และ อส. จากนั้นเวลา 12.30 น. มีนายสัมพันธ์ เนตรตระกูล นายอำเภอรัตภูมิ ตามมาสมทบ
ซึ่งในที่ประชุมมีการพูดคุยกัน โดยฝ่ายทหารขอให้ยุติการเดิน เพราะว่าการเดินครั้งนี้เป็นการกระทำผิดตามประกาศกฎอัยการศึก โดยเสนอว่าให้ทางเครือข่ายนำข้อร้องเรียนต่างๆ รวบรวมแล้วไปเปิดการเจรจาต่อหน้าผู้ว่าราชาการจังหวัดที่ศาลากลาง โดยให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมพูดคุย เพราะว่าการที่จะชุมนุมในระหว่างการประกาศกฎอัยการศึก จะต้องมีการขออนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัดเท่านั้น และหลังจากได้รับการอนุญาตแล้วเท่านั้นถึงจะทำได้
ด้านฝ่ายคณะเดินเท้า ซึ่งประกอบด้วย นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลจะนะ และนายประสิทธิชัย หนูนวย ผู้ประสานงานเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลัง และคณะ ได้นั่งล้อมวงหารือร่วมกันกับทางเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งฝ่ายคณะเดินเท้า บอกว่า ที่ผ่านมา มีการเสนอข้อมูลเรื่องปฏิรูปพลังงานให้แก่ คสช.แล้วหลายครั้ง ปรากฏว่า ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เกิดขึ้น ทั้งตัวแทนต้านโรงไฟฟ้ากระบี่ ออกมาให้ข้อมูล ตัวแทนเครือข่ายด้านแลนด์บริดจ์ จะนะ ปากบารา ก็ออกมาให้ข้อมูล และอีกหลายๆ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องทรัพยากร และพลังงาน ก็ไม่เคยเป็นผล
ทั้งนี้ ผลสุดท้ายจากการคุยกันระหว่างสองฝ่ายไปจนถึงเวลา 12.28. น. ร่วมครึ่งชั่วโมง มีการถกกันไปมา ถึงขั้นโต้เถียง และต่างก็มีท่าทีแสดงออกมาว่า ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้
นายแพทย์สุภัทร จึงได้เสนอให้พักเจรจาครึ่ง ชม. เพื่อให้คณะเดินเท้าได้หารือกัน ปรากฏว่า ทางคณะเดินเท้าตกลงกันว่า จะต้องเดินต่อเท่านั้น โดยมีข้อสรุปว่า ถ้าใครไม่สะดวกที่จะร่วมขบวนก็ให้ออกจากขบวนไปได้ ส่วนใครที่พร้อมจะเดินหน้าก็พร้อมที่จะเดินก้าวต่อไป หลังจากนั้นมีการเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน และจะนำข้อสรุปนี้ไปบอกแก่ทหาร ตำรวจ และพลเรือนที่มาเจรจา
ระหว่างการเจรจากันนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้าน พ.อ.วรพน วรพันธ์ เสนาธิการ มทบ.42 กล่าวว่า ใจจริงก็ไม่อยากจะดำเนินการใดๆ เพราะรู้สึกไม่ดี ในขณะที่ทุกคนก็เห็นว่าตนเองมีความคิดความอ่านอย่างไร แต่มันเป็นหน้าที่ที่ต้องดำเนินการว่า ไม่สามารถให้เดินต่อไปได้
ทางฝ่ายคณะเดินจึงบอกว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นให้ทางทหารทำหน้าที่ไป ตัวเขาเองก็ต้องทำหน้าที่เพื่อปกป้องประเทศชาติบ้านเมืองเช่นกัน
เสนาธิการ มทบ.42 จึงถามกลับว่า ถ้าให้ทหารมานอนบนถนนที่พวกคุณเดินให้เดินเหยียบไป จะเดินต่อหรือไม่ อีกฝ่ายตอบว่า ถ้าเอาทหารมานอนเขาก็จะนั่ง ถ้าเดินได้โดยไม่เหยียบก็จะเดิน แต่ถ้าจำเป็นต้องเหยียบก็จะนั่ง
อย่างไรก็ตาม ข้อสรุปจากการหารือกันของเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน คือ ยืนยันตามเจตนารมณ์เดิมตามที่ประกาศไว้ตั้งแต่ต้น ซึ่งไม่ได้มีความตั้งใจขัดค่ำสั่ง แต่ตั้งใจจะผลักดันให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการร่วมกันปกป้องทรัพยากร และประเทศชาติให้ได้เท่านั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทางเสนาธิการ มทบ.42 ได้สั่งให้ทหารเอารถบัสออกมาแล้ว ซึ่งตอนนี้รถบัสดังกล่าวได้ออกจากค่ายเสนาณรงค์มาแล้ว ซึ่งค่อนข้างจะแน่นอนแล้วว่า ทหารสั่งรวบคณะเดินเท้าแน่นอนหากมีการเดินต่อ
