ชุมพร - มือปืนขับรถกระบะใช้ปืนลูกซอง 5 นัด ไล่ยิงถล่มเฒ่าวัย 61 ปี ขณะขับ จยย.ดับคาถนน ตำรวจมุ่งปมเก่าเคยต้องคดีฆ่าคนตาย แต่อัยการสั่งไม่ฟ้อง
เมื่อเวลา 00.15 น.วันนี้ (19 ส.ค.) ร.ต.ท.หทยา อ่าวเจริญ ร้อยเวร สภ.ละแม จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตที่หมู่ 8 ต.ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ คมศักดิ์ ตันธนกุล ผกก.สภ.ละแม พ.ต.ท.วรพล ปานรัตน์ รอง ผกก.สส. แพทย์เวรโรงพยาบาลละแม และหน่วยกู้ภัยสมาคมพุทธประทีปละแม
ที่เกิดเหตุที่หน้าลานปาล์มโกบุญ ริมถนนสายบ่อโว้-ตลาดยายรวย หมู่ 8 ต.ละแม อ.ละแม ที่บริเวณร่องน้ำข้างถนนด้านหน้าลานปาล์มดังกล่าว พบศพทราบชื่อคือ นายกำพล ปานเนื่อง อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/1 หมู่ 2 ต.ป่าเว อ.ไชยยา จ.สุราษฎร์ธานี ถูกยิงเสียชีวิต สภาพศพใส่เสื้อยืดสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนสันนิษฐานว่าเป็นปืนลูกซอง 5 นัด เข้าที่ต้นแขนด้านขวา และเข้าที่กลางหลังเป็นรูพรุน แรงกระทะลุหน้าอกด้านซ้ายตัดขั้วหัวใจเสียชีวิตคาที่ ห่างกันเล็กน้อย พบจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ100 สีแดง-ดำ ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน สภาพพังเสียหายตกอยู่ในร่องน้ำข้างถนนสายดังกล่าว
จากการสอบสวนชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า มือสังหารซึ่งคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 2 คน ใช้รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นพรีรันเนอร์ แบบตอนครึ่งสีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ไล่ตามประกบยิงผู้ตายมาเสียงดังราว 3-4 นัด ซึ่งผู้ตายได้ขับจักรยานยนต์เร่งเครื่องหลบหนีมาอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมือสังหารได้ลั่นไกกระสุนถูกร่างนายกำพล จนกระเด็นตกรถเสียชีวิตและรถล้มลงในร่องน้ำริมถนน ต่อมา มีพลเมืองดีที่มาประสบเหตุเข้าช่วยเหลือนำร่างของนายกำพล ขึ้นมาจากร่องน้ำเพื่อจะนำส่งโรงพยาบาล แต่ก็พบว่านายกำพล ได้เสียชีวิตลงแล้วจึงโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้านนางละม่อม ปานเนื่อง อายุ 56 ปี ภรรยาผู้ตายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ นายกำพล สามีมาช่วยสร้างห้องน้ำที่ร้านอาหารตามสั่งของ น.ส.ถีวะรักษ์ ปานเนื่อง อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวที่เปิดร้านอยู่ใกล้กับสี่แยกไฟแดงในตลาด อ.ละแม ขณะเกิดเหตุผู้เสียชีวิตกำลังจะเดินทางกลับบ้านที่ตำบลคันธุลี อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งบ้านของผู้ตาย อยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 15 กม. แต่ก็ถูกกลุ่มมือปืนตามมาสังหารเสียชีวิตดังกล่าว
จากการตรวจสอบประวัติของ นายกำพล ผู้เสียชีวิตทราบว่า เคยต้องคดีข้อหาฆ่าคนตายที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2546 ต่อมา อัยการสั่งไม่ฟ้อง ระหว่างตกเป็นผู้ต้องหานายกำพล และครอบครัวต้องหนีออกจากพื้นที่ อ.ไชยา ไปอยู่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยเนื่องจากคู่กรณีเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และเมื่ออัยการสั่งไม่ฟ้องก็ได้พาครอบครัวกลับมาอยู่ที่ตำบลคันธุลี อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เขตติดต่อกับ อ.ละแม จ.ชุมพร จนมาถูกตามล่าสังหารจนเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นปมสังหารเรื่องอื่นๆออกไป แต่ได้ให้น้ำหนักไปที่เรื่องปมคดีเก่ามากกว่าปมเหตุอื่นๆ และจะสืบสวนสอบสวนเพื่อจับกุมคนร้ายที่สังหาร นายกำพลมา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป