ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อุบัติเหตุในพื้นที่ภูเก็ตเกิดขึ้นต่อเนื่อง สังเวยอีก 1 ศพ หนุ่มขับรถจักรยานยนต์พาสาวซ้อนท้าย เสียหลักรถแหกโค้งที่ภูเก็ต ชนรถยนต์กระบะได้บาดเจ็บสาหัส 1 คน ส่วนคนซ้อนท้ายดับคาที่
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (8 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถรถจักรยานยนต์แหกโค้งชนกับรถยนต์กระบะที่ขับสวนทางมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตคาที่ 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดบริเวณโค้งคอกม้า ถนนเลี่ยงเมืองสายกะทู้-เกาะแก้ว รอยต่อระหว่างพื้นที่อำเภอเมืองภูเก็ต และอำเภอกะทู้ ม.2 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้ง พ.ต.ต.สุชาติ หมีลำพอง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลเกาะแก้ว และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณทางโค้งพบประชาชนมุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก พบรถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน ผจ 2153 สงขลา ซึ่งมี นายรังสิมันต์ จันทร์มณี อายุ 23 ปี ชาวภูเก็ต เป็นคนขับจอดอยู่ริมถนน บริเวณใกล้ใต้ท้องรถกระบะคันดังกล่าว พบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย สภาพนอนหงายเสียชีวิต สวมเสื้อแขนสั้นสีขาว สวมทับด้วยเสื้อยีนส์สีน้ำเงิน สวมกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ใบหน้าเละ ขาทั้ง 2 ข้างหัก ศีรษะแตกเลือดไหลนองพื้น ทราบชื่อคือ นางสาคร บรรจงแก้ว อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช
ห่างกันออกไปประมาณ 150 เมตร พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Ryu bike ป้ายสีน้ำเงินเหรียญทอง 3501 ชุมพร ได้รับความเสียหาย นอกจากนั้นทราบว่า ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน ทราบชื่อ คือ นายผดุงศักดิ์ สุขนิรันดร์ อายุ 24 ปี ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
จากการถาม นายรังสิมันต์ จันทร์มณี อายุ 23 ปี กล่าวว่า ตนเองได้ขับรถยนต์กระบะมาตามถนนทางเลี่ยงเมืองสายกะทู้-เกาะแก้ว เพื่อที่จะเดินทางไปขายของที่ตลาดนัดกะทู้ อ.กะทู้ พอมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง ระหว่างนั้นได้มีรถจักรยานยนต์ขับสวนมา โดยมีผู้ชายเป็นคนขับรถและสวมหมอกกันน็อก ส่วนคนซ้อนท้ายเป็นผู้หญิง ไม่สวมหมวกกันน็อก เมื่อมาถึงจุดที่เกิดเหตุรถจักรยานยนต์ไดแหกโค้งมาชนกับรถตนเองอย่างรุนแรง ทำให้คนขับรถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนนั่งซ้อนท้ายเป็นผู้หญิงเสียชีวิตคาที่
อย่างไรก็ตาม หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุแล้ว ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ได้นำศพของผู้เสียชีวิตไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาลวชิระ เพื่อประสานญาติมารับศพนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ขณะที่ในส่วนของคนขับรถกระบะคันดังกล่าวไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด ทางพนักงานสอบสวนจึงได้เชิญตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้
