ชาวมุสลิมนราฯ จัดกิจกรรม “แข่งเรือยอกอง” เฉลิมฉลองเทศกาล “ฮารีรายอ”

นราธิวาส - ชาวมุสลิมชุมชนริมคลอดยะกัง จ.นราฯ จัดกิจกรรม “แข่งเรือยอกอง” เฉลิมฉลองเทศกาลฮารีรายอ โดยมีวัตตุประสงค์เพื่อต้านภัยยาเสพติด เสริมสร้างความสามัคคี ป้องกันเยาวชนจากกลุ่มแนวร่วมก่อเหตุความไม่สงบ พร้อมร้องขอหน่วยงานราชการหยุดช่วงฮารีรายอ ตามประกาศจุฬาราชมนตรี

วันนี้ (30 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณริมคลองยะกัง เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ผู้นำชุมชน และชาวบ้าน ได้จัดให้มีกิจกรรมการแข่งเรือยอกอง และการจัดการแข่งขันจับเป็ดชวา ในคลองยะกัง ซึ่งเป็นประเพณีในท้องถิ่น โดยได้รับความสนใจจากประชาชนทั้งใน และนอกพื้นที่ เข้าร่วมงานจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศเสียงหัวเราะ และรอยยิ้ม เนื่องในเทศกาลฉลองวันฮารีรายออีดิ้ลฟิตรี ของชาวมุสลิม

นายฮิลมี บินหะยีนิยิ ประธานชุมชนยะกัง เปิดเผยว่า กิจกรรมแข่งเรือ 5 ฝีพาย และจับเป็ดชวา เพื่อฉลองวันฮารีรายอ ทางชุมชน และชาวบ้านจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 แล้ว เป็นสิ่งที่มีอยู่ในพื้นที่ เพื่ออนุรักษ์ สิ่งที่ดีงามของกีฬาพื้นบ้าน และได้รับการสนับสนุนจากรัฐในบางส่วน ทั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อดึงเยาวชน ชาวบ้านรณรงค์ต้านภัยยาเสพติด การสร้างความสามัคคี ในครอบครัว ชุมชน และป้องกันเยาวชนถูกใช้เป็นเครื่องมือในการก่อเหตุความไม่สงบ ซึ่งในครั้งนี้มีรางวัลให้แก่ผู้ร่วมการแข่งขัน และไฮไลต์อีกอย่าง คือ การโยนเป็ดชวาลงคลอง และให้ผู้แข่งขันซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชนไล่จับเป็ดในคลองที่ไม่ที่อื่นนอกจากที่นี่ รางวัลคือ เป็ดตัวที่จับได้นำกลับบ้าน ซึ่งจะเห็นว่าทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ชายหญิง มีทั้งรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ ในเทศกาลวันฮารีรายอ

ขณะที่ นายอับดุลเลาะ เปาะเตอะ อายุ 80 ปี กล่าวว่า “กิจกรรมแบบนี้ดีมาก แต่เสียดายยังเป็นกิจกรรมที่ขาดการส่งเสริมจากภาครัฐ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและเยาวชนให้ห่างไกลจากยาเสพติด ซึ่งปัญหาเยาวชนปัจจุบันใครๆ ก็เป็นห่วงจะหลงผิดในทางที่ไม่ดี และรัฐสมควรยื่นมือช่วยเหลือมากกว่านี้ แม้ตนอายุจะมากแล้ว และคงจะอยู่ไม่กี่ปี แต่ตนต้องการเห็นชุมชนขาวสะอาด ปลอดยาเสพติด และไม่ต้องการเหตุการณ์ความไม่สงบ”

ด้านนายอำนาจ อินดอเลาะ อายุ 39 ปี อยู่ชุมชนยะกัง 1 เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส กล่าวถึง กรณีจุฬาราชมนตรี ได้ขอความร่วมมือทางราชการ เพื่อประกาศปิดราชการในช่วงวันฮารีรายออีดิ้ลฟิตรี เป็นเวลา 5 วัน นับตั้งแต่วันฮารีรายอ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทย แต่บางส่วนราชการของรัฐไม่รับตามคำขอร้องขอของจุฬาราชมนตรี ในเรื่องร่วมมือตามหลักการ เพราะทุกประเทศต่างมีวันสำคัญทางศาสนา จะมากล่าวอ้างว่ากระทบงานทางราชการคงดูไม่สวยนัก

ยกตัวอย่างเช่น การปิดส่วนราชการช่วงสงกรานต์ วันตรุษจีน ปิดราชการ 5 วันทั่วประเทศ ยังปิดได้ ความเสมอภาคต้องเกิดขึ้นทุกศาสนา และควรถึงเวลาที่รัฐต้องนำเรื่องเทศกาลวันฮารีรายอ ประกาศเป็นทางการ และบรรจุในปฏิทินไทยเป็นวันหยุดราชการทั่วประเทศ ไม่ใช่พอจะถึงเทศกาลฮารีรายอ ทางสำนักจุฬาราชมนตรี จะต้องทำหนังสือขอทุกปี